xs
xsm
sm
md
lg

แฉ “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” ทะลักกาฬสินธุ์ปีละกว่า 2 หมื่นตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - แฉขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ากาฬสินธุ์ ปีละกว่า 2 หมื่นตัน ขณะที่ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ สั่งนาย อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบป้องกัน ชี้เป็นความเคยชินในการประกอบอาชีพแบบไม่กลัวตาย คือปัญหาทำให้ตายผ่อนส่ง และเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคสำคัญ ด้านนายก อบต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย ทวงถามโรงงานกำจัดขยะหลายกระทรวงที่เคยรับปากจะมาก่อสร้างให้ประชาชน

จากกรณีอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าในหลายพื้นที่ของประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องขยะรีไซเคิล หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่แหล่งใหญ่เนื่องจากมีประชาชนประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (6 มิ.ย.) นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอฆ้องชัย พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ชวีวัฒน์ ผกก.สภ.ฆ้องชัย นายศิริศักดิ์ บุญไชยแสน สาธารณสุขอำเภอฆ้องชัย นายวิจิต มูลเอก นายก อบต.โคกสะอาด พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนลงพื้นที่ให้ความรู้และตรวจสอบปัญหาการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์กับชาวบ้านใน ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากพบข้อมูลมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 1,200 ตันต่อเดือน เฉลี่ยตกปีละกว่า 2 หมื่นตัน เนื่องจากส่วนใหญ่ชาวบ้านยึดอาชีพตระเวนรับซื้อของเก่ามาแยกเป็นเศษโลหะขาย

โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะนำมาทำการคัดแยกชิ้นส่วนขาย แต่กลับประสบปัญหาการกำจัดขยะเหลือและขยะที่ไม่มีค่าไม่ถูกวิธี และขาดสถานที่จัดเก็บมานานหลายสิบปี จนทำให้บ่อเก็บขยะเล็กทรอนิกส์ของทาง อบต.โคกสะอาดล้นและเกินขีดความสามารถในการกำจัด

นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ต.โคกสะอาด มีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะยึดอาชีพตระเวนรับซื้อของเก่าทั่วประเทศ โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งโทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือแล้วนำมาคัดแยกชิ้นส่วนขาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ ต.โนนศิลาเลิงที่รับซื้อของเก่าที่เป็นจำพวกเครื่องจักรและจักรยานยนต์มาแยกชิ้นส่วน หากรวม 2 พื้นที่ทำให้แต่ละเดือนมีขยะจำพวกเหล่านี้มาเข้าในพื้นกว่า 1,200 ตันต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นตันต่อปี

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เข้ามาให้ความรู้ในการคัดแยกขยะ โดยเฉพาะวิธีการป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีที่อยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเข้ามาดูแลและตรวจสุขภาพเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันเท่าที่ติดตามสถานการณ์พบว่าปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนนั้นยังไม่พบว่ามีใครล้มป่วยจากการได้รับสารเคมีในการคัดแยกขยะ แต่เพื่อเป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพทุกปี และเฝ้าระวังการใช้ชีวิตอยู่กับขยะอิเล็กทรอนิกส์

โดยเฉพาะเด็ก แต่มีปัญหาในการคัดแยกขยะที่ไม่มีค่าแล้วนำไปกำจัดไม่ถูกวิธี บางรายลักลอบเผา รวมทั้งสถานที่เก็บขยะหรือบ่อขยะนั้นไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะทะลักเข้ามาในแต่ละปี ดังนั้น ทางอำเภอจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการรณรงค์ประชาชนสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่คัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เสร็จแล้วให้นำไปทิ้งไว้ที่บ่อขยะ ห้ามคัดแยกโดยการเผาอย่างเด็ดขาด โดยขยะจำพวกโฟม พลาสติก และสายไฟ เพื่อไม่ให้กระทบในด้านสิ่งแวดล้อม

นายประสูตรกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เท่าที่ตรวจสอบขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ชาวบ้านนำมาคัดแยกชิ้นส่วนนั้นจะเป็นการรับซื้อของเก่ามาจากครัวเรือนจากทั่วสารทิศ ไม่ได้เป็นการนำมาจากการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะการคัดแยกขยะในพื้นที่ ต.โคกสะอาดนั้นจะทำกันเป็นการสร้างอาชีพในครัวเรือน ไม่ได้ใหญ่โตและเป็นโรงงาน อีกทั้งสภาพหมู่บ้านก็ไม่ได้แออัดจึงยังไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากนัก

ด้านนายวิจิต มูลเอก นายก อบต.โคกสะอาด กล่าวว่า ชาวบ้านใน ต.โคกสะอาด ประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์มานานแล้ว และส่วนใหญ่ยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัว เพราะการไปรับซื้อขยะแล้วนำมาคัดแยกนั้นสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านได้เป็นอย่างดี จนมีการขยายและสืบทอดการคัดแยกขยะไปยังลูกหลาน แต่ปัจจุบันกลับประสบปัญหาการกำจัดขยะที่เหลือจากการนำไปขายไม่ถูกวิธี และมีความปลอดภัยในชีวิต โดยเฉพาะการกำจัดโฟม พลาสติก เหล็ก และเศษกระจก เพราะมีการลักลอบเผาและทำลายโดยไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้ เนื่องจากสถานที่ทิ้งขยะหรือบ่อขยะของ อบต.ที่มีเนื้อที่ประมาณ 23 ไร่นั้นไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะที่ถูกนำเข้ามาจำนวนมากในแต่ปี ทำให้ปริมาณขยะล้นและเกรงว่าจะเกิดผลกระทบในอนาคต เพราะอาจจะค่อยๆ ได้รับสารพิษเข้าร่างกายเรื่อยๆ สะสมจนล้มป่วยเป็นโรคต่างๆซึ่งเป็นการตายผ่อนส่ง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตลอดจนผู้บริหารระดับประเทศหลายกระทรวงลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบหลายครั้งแล้ว บางกระทรวงยังรับปากว่าจะจัดหาเตาเผาและดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพบ่อขยะให้แต่ก็เงียบหายไป ไม่มีวี่แววที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน ทำให้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นี้หมักหมมมานานหลายสิบปี แต่ชาวบ้านก็ยังยึดอาชีพนี้ต่อไป เพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร

นายต๋อง จันดาโชติ อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองบัว ต.โคกสะอาด ที่ยึดอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า ครอบครัวยึดอาชีพนี้มานานหลายปีแล้ว โดยจะรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แล้วมาแกะชิ้นส่วนส่งขาย ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น พอได้เลี้ยงครอบครัว

ทั้งนี้ ที่ผ่านการคัดแยกขยะเหล่านี้ตนและครอบครัวก็ได้สวมหน้ากากอนามัยและถุงมือเพื่อป้องกันสารปนเปื้อน และขณะนี้คนในครอบครัวก็ไม่ได้ล้มป่วยเป็นโรคอะไรซึ่งยังคงยึดอาชีพนี้ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น