ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศิลปินเชียงใหม่ร่วมเคลื่อนไหวกรณีบ้านพักศาลเชิงดอยสุเทพ สร้างสรรค์ผลงานเตรียมร่วมจัดแสดงชุมนุมใหญ่ 29 เม.ย. 61 โดยถอดแบบ “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ยกออกจากดอยสุเทพส่งลงบนที่นอน “กงเต็ก” ตามพิธีกรรมสวดและเผาสิ่งของส่งวิญญาณของจีน ให้ผู้คนร่วมแสดงออกความรู้สึกและความคิด
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ขณะนี้เกิดกระแสความตื่นตัวของประชาชนในการร่วมกันเรียกร้องให้ยุติและยกเลิกโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากประชาชนทั่วไปที่แสดงออกด้วยการติดริบบิ้นสีเขียวหรือสติกเกอร์ “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ตามบ้านเรือนหรือรถ รวมทั้งร้านค้าหรือสถานประกอบการต่างๆ ติดป้ายข้อความระบุว่าไม่ขายสินค้าหรือบริการให้คนทำลายป่า ล่าสุดพบว่ามีศิลปินที่จังหวัดเชียงใหม่สร้างสรรค์ผลงานเพื่อร่วมเคลื่อนไหวและเรียกร้อง พร้อมทั้งเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกันแสดงออกในเรื่องนี้
โดยผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นการถอดภาพจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศที่แสดงให้เห็นที่ตั้งของโครงการที่ยื่นล้ำขึ้นไปบนดอยสุเทพลงบนที่นอนที่สั่งทำเป็นพิเศษ เพราะบ้านพักเปรียบเสมือนที่นอน ประกอบกับแนวความคิดเรื่องพิธี “กงเต็ก” ของจีน ที่เป็นการทำบุญอุทิศให้คนตายด้วยการสวดและเผาสิ่งของให้ ซึ่งผลงานนี้จะมีการนำไปจัดแสดงในกิจกรรม “วันประกาศเจตนารมณ์ประชาชน ทวงคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ที่เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพจะจัดขึ้นในวันที่ 29 เม.ย. 61 ระหว่างเวลา 07.30-10.30 น. ที่ลานประตูท่าแพ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจมีส่วนร่วมกับการจัดแสดงงานศิลปะชิ้นนี้ด้วยการแสดงออกต่างๆ
นายศุภชัย ศาสตร์สาระ อายุ 50 ปี ศิลปิน และอาจารย์มหาวิทยาลัย เจ้าของผลงานศิลปะชิ้นนี้ เปิดเผยว่า ผลงานนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก โดยโครงการดังกล่าวเป็นหมู่บ้านที่พักของข้าราชการตุลาการที่ยื่นขึ้นไปบนดอยสุเทพ ซึ่งผู้คนรู้สึกว่ามีผลกระทบต่อป่าและระบบนิเวศ เป็นเหมือนบาดแผล จึงได้หยิบยกเอาแผนที่ของหมู่บ้านถอดแบบออกมา แต่แทนที่จะไปอยู่บนเฟรมภาพก็ใช้ที่นอนแทนเพราะบ้านพักเปรียบเสมือนที่นอนจึงใช้ที่นอนในการสร้างภาพนี้ พร้อมทั้งผสมผสานแนวความคิดตามพิธีกรรมความเชื่อในเรื่อง “กงเต็ก” ของจีนเข้ามาด้วย ให้เป็นเหมือนการส่งไปยังอีกภพหนึ่ง
สำหรับการจัดแสดงในวันที่ 29 เม.ย. 61 นั้นจะขับเคลื่อนโดยมีศิลปินและผู้ช่วยที่จะเดินยกที่นอนดังกล่าวนี้ไป พร้อมให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งนั่ง นอน บนที่นอนเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หรืออาจจะเขียนข้อความแปะลงไปเพื่อร่วมกันก่อให้เกิดการจดจำ บันทึกและเกิดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ซึ่งบทบาทของผลงานศิลปะในครั้งนี้ตั้งใจขับเคลื่อนให้เกิดความคิด สร้างปรากฏการณ์ความหมาย และสะท้อนความรู้สึกของผู้คน โดยผลสุดท้ายไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะตั้งใจให้เป็นการจุดชนวนความคิด ซึ่งสุดท้ายแล้วสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจจะถูกส่งไปที่ใดก็ได้ ทั้งอีกภพหนึ่งหรือนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาตัดสินใจเรื่องนี้