xs
xsm
sm
md
lg

นักอนุรักษ์ปักหลักหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั่งภาวนาถือศีลอดวอนทุกฝ่ายหันหน้าแก้ขัดแย้งกรณีบ้านพักดอยสุเทพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นักอนุรักษ์เครือข่ายลุ่มน้ำปิงตอนบนปักหลักหน้าที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ นั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาและแผ่เมตตา พร้อมทั้งถือศีลและอดอาหารเรียกร้องทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันแก้ไขปัญหากรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณพื้นที่รอยต่อป่าดอยสุเทพอย่างประนีประนอม โดยยึดประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดแก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง



ช่วงเที่ยงวันนี้ (25 เม.ย. 61) ที่บริเวณหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายนิคม พุทธา นักอนุรักษ์จากเครือข่ายลุ่มน้ำปิงตอนบน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มทำกิจกรรมนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาและแผ่เมตตา พร้อมทั้งถือศีลและอดอาหารเพื่อร่วมแสดงออกกรณีปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณพื้นที่รอยต่อป่าดอยสุเทพ พร้อมเชิญชวนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกรณีนี้หันหน้าพูดคุยหารือกันอย่างประนีประนอมเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกัน โดยมีกลุ่มผู้ที่สนับสนุนแนวทางช่วยกันจัดสถานที่สำหรับการจัดกิจกรรมให้อย่างเรียบง่ายด้วยการตั้งเต็นท์และปูเสื่อให้อยู่ริมรั้วด้านนอกของสำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 และจัดหาน้ำดื่มเตรียมไว้ให้ด้วย




นายนิคมระบุว่า การนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาและแผ่เมตตาในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ากรณีปัญหาโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เกิดขึ้นเริ่มมีแนวโน้มที่จะเกิดการเผชิญหน้าและลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น จากการที่ฝ่ายหนึ่งยึดถือแต่กระบวนการทางกฎหมายเป็นหลัก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งยึดกระบวนการทางสังคม จึงอยากจะเสนอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุย รวมทั้งต่างยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างมีข้อบกพร่องเช่นกันและกระบวนการหนึ่งกระบวนการใดแต่เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างประนีประนอมและสันติวิธีมากกว่า โดยการเคลื่อนไหวของตัวเองในครั้งนี้ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่มองเป้าหมายที่ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและผืนป่าเป็นหลัก

สำหรับการนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาและแผ่เมตตาในครั้งนี้นั้น นายนิคมบอกว่า เบื้องต้นจะนั่งเป็นระยะเวลา 5 วัน โดยระหว่างนี้ผู้ที่สนใจที่มีความคิดเห็นและมุมมองเช่นเดียวกันสามารถเข้าร่วมได้ด้วยข้อแม้เดียวว่าต้องยึดหลักสันติวิธี ส่วนผลสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นจากนี้นั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีการรื้อหรือไม่รื้อบ้านพักข้าราชการตุลาการ แต่อย่างน้อยหวังว่าทุกฝ่ายจะเกิดการเรียนรู้ร่วมกันและหาทางออกร่วมกันอย่างประนีประนอมได้

นายนิคมย้ำว่า จะทำไปจนถึงวันที่ 29 เม.ย. 61 ที่ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และภาคประชาชนจะมีการจัดกิจกรรม “รวมพลคนเชียงใหม่ ไม่เอาบ้านป่าแหว่ง” ที่ลานประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนตัวจะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวหรือไม่จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง



กำลังโหลดความคิดเห็น