นครปฐม - น้องอิน สู้สุดแรง ควงแม่ขึ้นรถกัดฟันไปรับยา หมอแสง รักษามะเร็งระยะสุดท้าย ที่ปราจีนบุรี โดนยายบอกเครียดสิ้นหวัง ยังนึกไม่ออกว่าจะหันไปทางไหน หากลูกสาวไม่อยู่ แต่ยืนยันหากมีชีวิตจะขอใช้พลังตอนอายุ 77 ปี ลุยงานเพื่อให้หลานได้อยู่ต่อแม้ไม่มีแม่
วันนี้ (3 ก .พ . ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ม.5 ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อพบกับ เด็กหญิงพระประภา ลิ้มเจริญ หรือ น้องอิน อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบางประแดง อ.สามพราน หลังจาก พบว่าเป็นเด็กหญิงยอดกตัญญู ที่ต้องหยุดเรียนบ่อยครั้ง เนื่องจากต้องไปดูแลมารดา คือ นางเพ็ญผกา ลิ้มเจริญ อายุ 38 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งตับ หลังจากเคยรับการรักษามะเร็งปอด จนหายดี แต่สามีที่เป็นบิดาของน้องอิน ได้ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ นางเพ็ญผกา นั้นป่วยด้วยโรงมะเร็งอีกครั้ง ทิ้งให้ น้องอิน ต้องอยู่กับมารดา และยายอีก 2 คน ที่ชราและป่วย รวม 4 ชีวิตอย่างลำพัง และนับวันถอยหลังที่ นางเพ็ญผกาจะต้องจากไปในช่วงมะเร็งระนะสุดท้าย
ล่าสุด ตั้งแต่ช่วงเข้าที่ ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ ยายเอือด อายุ 77 ปี และ ยายมณฑา อายุ 60 ปี ที่มีอาการป่วยทางสมอง ไม่สามรถดูแลตัวเองได้ ซึ่งกำลังคุยกับเพื่อนบ้านที่เข้ามาให้กำลังใจ หลังเกิดเป็นข่าวและมีประชาชนที่มีความสงสารได้ประสงค์จะให้การช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง แต่วันนนี้พบว่า น้องอินและนางเพ็ญผกา ไม่อยู่ เนื่องจากได้ว่าจ้างรถขับไปรับยารักษาโรคมะเร็ง ที่จังหวัดปราจีนบุรี โดนจะกลับมาในวันพรุ่งนี้
ยายเอือด อายุ 77 ปี บอกว่า นางเพ็ญผกา บุตรสาว ได้ ออกไปพร้อมน้องอิน หลานสาว โดยได้ว่าจ้างให้เพื่อนบ้านขับรถไปนอนค้างเพื่อรับยารักษามะเร็ง ของหมอแสง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอเทวดา จังหวัดปราจีนบุรี
โดยจริงๆแล้ว นางเพ็ญผกา บุตรสาวอยากจะเดินทางไปแต่ร่างกายไม่ไหว ไม่มีแรงทำงานมา 1 เดือนและเริ่มจะถอดใจกับการไปรับยา แต่น้องอิน ไม่ยอมและบอกว่าถ้าแม่ไม่ไหวจะนั่งรถโดยสารไปจังหวัดปราจีนและจะไปรอรับยากลับมาให้ ซึ่งเมื่อเพื่อบ้านทราบเรื่องจึงได้ขันอาสาให้ช่วยแค่ค่าน้ำมันพาไปตั้งแต่เช้า โดยตอนนี้ทุกคนในบ้านเครียดมาก คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรถ้าถึงวันนั้น แต่น้องอินนั้นสู้ทุกรูปแบบที่พยายามหาทางรักษาแม่ให้หายป่วยโดยไว
“ ส่วนตัวคิดว่า น้องอิน นั้นเป็นเด็กดีเขารักแม่มาก พยายามดูแลแม่ทุกๆอย่าง และดูเขาเครียดไม่ยอมไปไหนนอกจากจะดูแลแม่เป็นหลัก ซึ่งยังไม่มีการปรึกษากันว่าหากเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นจะต้องทำอย่างไร แต่ฉันไม่คิดจะให้หลานคนนี้กับใคร ถ้าฉันตายถึงจะยอมให้เขาไปอยู่กับญาติคนอื่น และว่าจะออกไปหางานรับจ้างอีกครั้งที่จะเอาเงินมาให้หลานใช้เรียนต่อให้ได้ ฉันจะสู้เพื่อหลานทุกรูปแบบ” ยายเอือด กล่าว
ยายเอือด กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ยายมณฑา น้องสาว ที่สติไม่ดี นั้นก็ยังไม่เคยได้รับเบี้ยคนพิการ เพราะตนเองไม่รู้หนังสือ และบ้านที่อยู่ที่ยังเช่าอยู่ก็ยังไม่มีเลขที่ อยากจะให้หน่วยงานเข้ามาช่วยตรงนี้แต่ไม่รู้จะติดต่อใครเพราะไม่กล้าออกไปข้างนอกกลัวหลง ได้แต่อาศัยเพื่อนบ้านไปติดต่อให้
ขณะที่ นายพงศพัศ รัตนะ ครูประจำชั้น น้องอิน. บอกว่า มีหน่วยงานกาชาดจังหวัดนครปฐม ได้ติดต่อขอเข้าพบกับครอบครัวน้องอินแล้ว และมีการประสานงานกับ นายเพ็ชรชาย โชคประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากแดง ได้สนับสนุนเงินส่วนตัวเบื้องต้น และนำเข้าบัญชี ของน้องอิน ชื่อ บัญชี เงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขา บิ๊กซีอ้อมใหญ่ เลขที่ 020186236418 เด็กหญิงพรประภา ลิ้มเจริญ โดยได้มีประชาชนโทรมาสอบถาม และเริ่มโอนเงินเข้ามาบางส่วนแล้ว