นครปฐม - น้องอิน ยอดกตัญญู ควงแม่ยิ้มสู้ หลังเดินทางไปรับยาหมอแสง ที่จังหวัดปราจีนฯ บอกหลายวันจากสิ้นหวัง ได้พบคนไปรับยากลับทำให้มีกำลังใจต่อสู้อีกเยอะ ขณะแม่เตรียมเข้ารับคลีโมอีกครั้ง เกรงใจนายจ้าง กลัวทำงานไม่คุ้มค่าเงินเดือน
หลังจากได้มีการนำเสนอเรื่องราวของ น้องอิน หรือ ด.ญ.พระประภา ลิ้มเจริญ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบางประแดง อ.สามพราน และนางเพ็ญผกา ลิ้มเจริญ อายุ 38 ปี มารดา ตามที่ นายพงศพัศ รัตนะ ครูประจำชั้นของโรงเรียนบ้านปลวกแดง ได้โพสต์เรื่องราวของ น้องอิน ลงในโซเชียลเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับระยะที่ 3 หลังจากรักษาโรคมะเร็งปอดมาได้ระยะหนึ่ง แต่อาการเกิดทรุด ทำให้ น้องอิน ต้องลาเรียนบ่อยครั้งเพื่อกลับมาดูแลแม่ และต้องไปพบแพทย์ตามที่นัด ซึ่งยังมียายอีก 2 คน ที่ชรา และสติไม่ดีอยู่ในบ้านเช่าอย่างยากลำบากทั้ง 4 ชีวิต และล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.น้องอิน ได้เดินทางไปรับยามะเร็งของหมอแสงมาให้แม่
นางเพ็ญผกา เผยว่า ขณะนี้มีกำลังใจขึ้นมาก และเชื่อว่าการรักษาด้วยยาหมอแสงควบคู่กับหมอแผนปัจจุบันจะมีโอกาสหาย โดยเมื่อได้ไปคุยกับคนที่ไปรับยาจากทั่วสารทิศ บางคนนั่งเครื่องบินมาเพื่อขอรับยา ซึ่งหลายคนก็บอกว่าหาย โดยมีดาราคนหนึ่งได้บอกว่าลูกป่วยเป็นมะเร็งที่สมอง เมื่อมาเอายาไปกินก็หายได้ ขณะนี้ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งวันที่ 10 นี้ หมอจะนัดไปให้คีโมอีก ซึ่งถ้ามียาตัวนี้มาก็จะช่วยให้มีแรงมากขึ้น ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ไปให้คีโม ร่างกายเหนื่อยมาก ทรมานเหมือนจะไม่ไหว
ขณะนี้กำลังคิดจะไปลาออกจากงาน เนื่องจากหากมีการไปให้คีโมก็ต้องนอนพักร่างกายอีกหลายวัน น้องอิน ก็ต้องลาเรียนอีกเพื่อจะต้องมาดูแลตนเอง ซึ่งคิดจะไปขอลาออกจากงาน เพราะเกรงใจเถ้าแก่ที่ตนเองต้องหยุดงานบ่อยครั้ง แต่เถ้าแก่ก็บอกว่า จะไม่ให้ลาออก ซึ่งยังคิดไม่ออกว่าจะบอกเขาว่ายังไง เพราะเราทำงานให้เขาไม่ได้ ซึ่งถ้าร่างกายดีขึ้นก็จะกลับไปขอเข้าทำงานอีกครั้ง
นางเพ็ญผกา กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีการโพสต์เรื่องราวของตนเองออกสู่สังคมโซเชียลก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาสนใจมากขนาดนี้ มีคนเข้ามาให้กำลังใจเยอะมาก แต่ตนเองก็เกรงใจไม่ได้อยากจะออกไปแสดงออกเพื่อขอเงินใคร และพยายามจะรักษาตัวให้กลับมาทำงานให้ได้เร็วที่สุดเพราะรู้ว่า น้องอิน ต้องใช้เงินอีกเยอะ โดยยังมีแม่ และอาที่ต้องคอยเลี้ยงดูรวม 4 ชีวิต ซึ่งหากตนเองเป็นอะไรไปก่อนทุกคนจะต้องลำบากมาก
ขณะที่ น้องอิน เผยว่า เพิ่งกลับมาจากจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อไปขอรับยามะเร็งหมอแสง ซึ่งเป็นหมอชื่อดังที่มีการเปิดให้มีการเข้าไปรับยาฟรีในการรักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นการเข้าไปรับยาครั้งที่ 2 ทำให้ยังมีความหวังอย่างเต็มที่ว่าแม่ต้องหายเหมือนที่เคยรักษาโรคมะเร็งปอดได้มาแล้ว และครั้งนี้ก็จะต้องรักษาหายเช่นกัน เนื่องจากเชื่อว่ายาของหมอแสงกับการรักษากับหมอปัจจุบันจะทำให้แม่นั้นหายได้แน่ๆ โดยมีความหวังมากขึ้น
น้องอิน กล่าวอีกว่า การไปรอรับยาจากหมอแสง รอบนี้ก็อาศัยเพื่อนบ้านให้ขับรถพาไป ซึ่งในช่วงแรกเห็นว่าแม่จะไม่ไปเพราะร่างกายไม่ไหว และเดินทางลำบาก ตนเองจึงจะขออาสานั่งรถไปรับยาให้แม่เอง เพราะอยากจะทำทุกอย่างที่ทำให้แม่กลับมาหายเป็นปกติได้ แต่แม่ก็มีแรงฮึดขอนั่งรถไปด้วย ซึ่งดีใจที่เห็นหลายคนหายป่วยจากการได้รับยาที่นั่น
ส่วน ยายเอือด อายุ 77ปี บอกว่า ขอบคุณกำลังใจที่เข้ามาให้โดยการมาเยี่ยมบ้านกันหลายคนซึ่งเห็นลูกสาวกับหลานสาวดูมีกำลังใจมากขึ้นก็รู้สึกว่าตนเองก็มีกำลังใจไปด้วย และอยากจะให้เขาหายกลับมาทำงานได้ น้องอิน จะได้มีเสาหลักส่งเสียให้เรียนจนจบหางานทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเห็น น้องอิน เขารักแม่เขามากมาตั้งแต่เด็ก และตั้งแต่แม่เขาป่วยเขาดูเครียดขึ้นเยอะ แต่เมื่อไปไปรับยาหมอแสงทั้งคู่ก็กลับมาดูมีความสุขเล็กๆ อีกครั้งทำให้ตนเองก็ดีใจไปด้วย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขาบิ๊กซีอ้อมใหญ่ เลขที่ 020186236418 เด็กหญิงพรประภา ลิ้มเจริญ ที่ทางครูประจำชั้น และผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบางประแดง ได้นำไปเปิดเพื่อให้ผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคนั้น ขณะนี้ยังมีผู้บริจาคเข้ามาเพียงหลักพันเท่านั้น แต่พบว่ายังมีหลายคนนั้นพยายามติดต่อขอเข้ามาให้กำลังใจ นำเงิน และสิ่งของมามอบให้อีกหลายราย โดยคาดว่าตั้งแต่วันนี้ไปน่าจะมีทยอยเข้ามาให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีก