ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมเจ้าท่า เผยเฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน พร้อมบริการ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบความปลอดภัยรองรับนักท่องเที่ยวปลายท่าเรือพัทยาใต้ ขณะที่มาตรฐานตัวเรือผ่านมาตรวจสอบแล้ว เตรียมทดลองจริง 1 มกราคมนี้
นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคเมืองพัทยา เปิดเผยถึงความพร้อมการเปิดให้บริการเรือเฟอร์รี่ เส้นทางพัทยา-หัวหิน ว่า ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าและใกล้พร้อมดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบแล้ว และจะทันต่อกำหนดการที่ได้ประชาสัมพันธ์ไว้ก่อนหน้านี้แน่นอน โดยในส่วนของท่าเทียบเรือที่จะนำเรือมาเทียบท่า และใช้บริการบริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้นั้น ได้มีการกำหนดให้ใช้พื้นที่ของท่าเรือ 4 บริเวณปลายสะพาน ซึ่งทางสำนักงานเจ้าท่า ได้เข้ามาทำการตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยไปแล้ว
ทั้งเรื่องของโครงสร้างสะพาน ทุ่นกันกระแทก และระดับความลึกของน้ำทะเล ขณะที่ทางผู้รับสัมปทานได้แก่ บ.รอยัล พาสเซนเจอร์ ไลน์ จำกัด ก็ได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่ด้วยการก่อสร้างอาคารจุดตรวจผู้โดยสาร ซึ่งจะมีการติดตั้งเครื่องสแกน หรือ CTX เพื่อเช็กความปลอดภัย รวมถึงห้องพักผู้โดยสารแบบมาตรฐานที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 70 คน
โดยการปรับปรุงพัฒนาดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 วันนี้ ขณะที่ในส่วนของเรือโดยสารนั้น เป็นเรือ Catamaran Ferry ขนาด 300 กว่าที่นั่ง ที่มีการซื้อมาจากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว แต่ยังรอขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ที่อู่เรือใน จ.สมุทรปราการ จากนั้นก็จะนำเรือแล่นเข้าสู่เมืองพัทยาเพื่อทำการ Test Run ภายใน 1-2 วันนี้
นายเอกราช กล่าวต่อว่า ปัจจุบันในส่วนของอัตราค่าบริการนั้นยังไม่มีการระบุที่แน่ชัด แต่ในวันที่ 30 มกราคมนี้ อธิบดีกรมเจ้าท่า จะเดินทางมาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาอย่างเป็นทางการที่เมืองพัทยา ร่วมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ เนื่องจากมีองค์ประกอบในหลายปัจจัยต่อการกำหนดราคา จากนั้นก็จะนำคณะกรรมการเข้าร่วมทดสอบระบบเรือ และอาจมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้ในวันที่ 1 มก ราคมนี้ ก่อนจะเปิดเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคมตามกำหนด
ปัจจุบันการเปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน คงเปิดให้บริการรองรับเฉพาะนักเดินทางไปก่อนในช่วงแรก ในจำนวนวันละ 2 เที่ยว คือ เวลา 08.30 น.จากท่าเรือหัวหินสู่เมืองพัทยา และเวลา 15.30 น.ของเมืองพัทยา สู่ท่าเรือหัวหิน จากนั้นจะมีการดูสถิติกระแสตอบรับจากประชาชนและนักท่องเที่ยวก่อนขยายผลประกอบการในเฟสที่ 2 และ 3 ซึ่งอาจจะเป็นการรองรับการขนส่งรถยนต์ และพัสดุ และเพิ่มเที่ยวเรือต่อไป
