เผยพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวศักยภาพ ยันพร้อมเปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ “พัทยา-หัวหิน”

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าท่าพัทยา เผยพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวศักยภาพ ระบุความพร้อมเปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ “พัทยา-หัวหิน” ให้ทดลองเดินเรือตามแผนปลายปี 59 นี้ เชื่อหลังเริ่มดำเนินการจริงจะเป็นการเพิ่มศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา เปิดเผยถึงความคืบ หน้าการเปิดให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ เส้นทาง“พัทยา-หัวหิน” ว่า ด้วยกรมเจ้าท่า มีความมุ่งหมายในการเปิดเส้นทางเดินเรือบริเวณพื้นที่อ่าวไทยตัว ก. ซึ่งจะให้บริการการเดินเรือจากต้นทางที่เมืองพัทยา ไปสู่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรมเจ้าท่า จึงได้มีการดำเนินการคัดเลือกบริษัทที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับเลือกใบอนุญาตเรือกลประจำทาง ซึ่งปัจจุบันได้คัดเลือกบริษัทที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด คือ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด แล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีดังกล่าวก่อนที่จะมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นรูปธรรมนั้น ทางผู้ประ กอบการมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในการพิจารณาในเรื่องของตัวเรือที่จะนำมาให้บริการในพื้นที่ที่กำหนดไว้ รวมถึงการใช้ท่าต้นทาง และปลายทางจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของผู้ครอบครองท่าเรือนั้นๆ ซึ่งในส่วนของพื้นที่ต้นทางคือ เมืองพัทยานั้น มีแผนจะให้บริการบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้

ซึ่งจากการประสานงานที่ผ่านมา ด้านเมืองพัทยาก็ยินยอมให้บริษัทดังกล่าวใช้ท่าเรือซึ่งเป็นท่าด้านนอกดำเนินการด้วย โดยมีความเหมาะสมในการรองรับเรือขนาดใหญ่ขนาด 150 ที่นั่ง ในระยะเวลา 1 ปี ส่วนท่าเรือปลายทางนั้นคือ ท่าเทียบเรือประมงที่อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การสะพานปลา ผู้ประกอบการก็ได้มีการติดต่อประสานงานในการขอใช้ท่าเรือไปแบ้ส คาดว่าน่าจะได้รับการยินยอมจากผู้ครอบครองท่าเรือปลายทางเป็นอย่างดี

นายเอกราช เปิดเผยต่ออีกว่า ในส่วนที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการต่อไปจากนี้คือ จะต้องมีการนำเรือเฟอร์รี่มาจดทะเบียนเรือเป็นประเภทเรือบรรทุกผู้โดยสารให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนดก่อน และดำเนินการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาเรือกลประจำทาง ของกรมเจ้าท่า เพื่อกำหนดเส้นทางการเดินทาง อัตราค่าธรรมเนียม

รวมทั้งมาตรฐานด้านความปลอดภัยในทุกด้าน ซึ่งถือเป็นเรื่องของระเบียบ และขั้นตอนที่สำคัญที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยในส่วนของพื้นที่พัทยานั้น ทางสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา ต้องตรวจสอบในเรื่องของท่าเทียบเรือต้นทางเพื่อดูความเหมาะสม ความมั่นคง และความปลอดภัย รวมถึงเรื่องของร่องน้ำต่างๆ ที่สามารถรองรับเรือผู้ประกอบการรายดังกล่าวได้ ก่อนจะจัดทำรายงานเสนอไปยังกรมเจ้าท่า เพื่อพิจารณาประกอบกันอีกครั้ง

สำหรับประเภทของเรือเฟอร์รี่ที่จะนำมาเปิดให้บริการนั้น ข้อมูลล่าสุดทราบว่า จะเป็นการใช้เรือ Catamaran Ferry จำนวน 1 ลำ ที่มีอัตราความเร็วสูงสุดที่ 27 นอต สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดจำนวน 150 คน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ทำการสั่งซื้อเรือมือ 2 มาจากประเทศจีน

โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการนำเข้ามาจดทะเบียน ก่อนจะนำเรือมาทดลองใช้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2559 ตามแผนที่บริษัทแจ้งไว้ โดยการเปิดเส้นทางดังกล่าว กรมเจ้าท่าคาดว่าหากมีการเริ่มเปิดใช้งานก็จะถือเป็นการผลักดันเรื่องนี้เพื่อให้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถือเป็นนโยบายของกระทรวงคมนาคมอีกด้วย

ขณะที่ในส่วนของท่าเทียบเรือพัทยาใต้ ซึ่งขณะนี้มีการใช้งานเกินขีดความสามารถนั้น เรื่องนี้คงต้องยอมรับ และต้องหาแนวทางแก้ไข ด้วยที่ผ่านมา ท่าเทียบเรือของพัทยานั้นมีการใช้พื้นที่เดินเรือที่หลากหลายทั้งประเภทเรือขนส่งประจำทาง เรือกีฬาทางน้ำ รวมถึงการสันทนาการต่างๆ

แต่อย่างไรก็ตาม จากแผนที่จะใช้พื้นที่เมืองพัทยาเป็นพื้นที่ต้นทางแล้วนั้น ก็คงจะต้องกำหนดแผนการเดินเรือที่ชัดเจน รวมทั้งการบริหารจัดการ โดยจะมีการนำแผนพัทยาโมเดลมาปรับใช้เพื่อให้สามารถใช้งานได้สมจริง ขณะที่ปัญหาอื่นๆ ทางสำนักงานเจ่าท่า จะได้ทำรายงานเสนอต่อส่วนกลางให้ได้รับทราบ และหาแนวทางการสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป