เมืองพัทยาติงเส้นทาง “เฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน” ไม่เหมาะ หลังพบสะพานชำรุด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาชิกสภาเมืองพัทยา ติงแผนเปิดเส้นทาง “เฟอร์รี่พัทยา-หัวหิน” อาจไม่เหมาะสมพื้นที่ท่าเรือพัทยาใต้ หลังพบสภาพสะพานชำรุดหนัก หวั่นการรองรับมีปัญหา วอนฝ่ายบริหารพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนอนุมัติ

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวในที่ประชุมสภาเมืองพัทยา ในการประชุม สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องว่าจะมีการเปิดเส้นทางการเดินเรือเฟอร์รี่ ระหว่างพื้นที่เมืองพัทยาถึงหัวหิน ซึ่งจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2560 โดยใช้พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี เป็นท่าต้นทาง โดยระบุว่า เป็นมาตรการในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน

ทั้งนี้ ในความคิดเห็นส่วนตัวแล้วมองว่าแม้จะเป็นเรื่องดี แต่ไม่น่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม ด้วยปัจจุบันสภาพของสะพานท่าเทียบเรือพัทยาใต้ ที่ก่อสร้างมานานตั้งแต่ปี 2546 นั้นพบว่า มีสภาพชำรุดอย่างหนักจากการผ่านใช้งานที่ต้องรองรับประชาชน และนักท่องเที่ยวกว่า 10,000 คนต่อวัน

ขณะนี้สภาเมืองพัทยาเพิ่งผ่านการพิจารณางบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมครั้งใหญ่ ดังนั้น ในช่วงเวลาอันใกล้นี้หากมีเรือโดยสารขนาดใหญ่มาใช้บริการ และมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากก็อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้

ขณะที่ นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา กล่าวเสริมว่า สำหรับโครงการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากระหว่างพัทยา-หัวหิน นั้น เป็นโครงการที่มีการพิจารณามาหลายครั้งตั้งแต่สมัย พล.อ.ประจินต์ จั่นตอง เป็นรัฐมนตรีว่าการการะทรวงคมนาคม โดยมีการลงพื้นที่มาสำรวจพื้นที่จริงที่เมืองพัทยา และเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่เหมาะสม เนื่องจากปัญหาของท่าเทียบเรือ เรื่องของจุดพักรถ การคมนาคม ความปลอดภัย และการจราจร

กระทั่งมีแผนที่จะย้ายจุดท่าต้นทางไปยังพื้นที่ของท่าเรือจุกเสม็ด ในเขตพื้นที่ของฐานทัพเรือสัตหีบ แต่สุดท้ายกลับมีการออกข่าวว่าจะกลับมาใช้พื้นที่ของท่าเรือที่เมืองพัทยา จึงเหมือนเป็นการยัดเยียดพื้นที่กัน ซึ่งเรื่องนี้ในฐานะที่เมืองพัทยาเป็นเจ้าของ และผู้ดูแลท่าเทียบเรือ จึงควรมีการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนทำการอนุมติเห็นชอบ

กรณีดังกล่าวทางฝ่ายบริการยังไม่มีการชี้แจงที่แน่ชัด แต่จะนำเรื่องกลับไปพิจารณาอีกครั้งก่อนแจ้งผลไปยังกรมเจ้าท่า เพื่อรับทราบต่อไป