บุรีรัมย์ - เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จ.บุรีรัมย์ พอใจหลังราคายางปรับขึ้นร่วมกิโลกรัมละ 70 บาท เผยเป็นราคาที่ในรอบ 3 ปี คาดแนวโน้มราคายางปีนี้จะปรับขึ้นถึง 80 บาท เชื่อสาเหตุมาจากสวนยางหลายจังหวัดภาคใต้ถูกน้ำท่วม และความต้องการยางเพิ่มข้น
วันนี้ (10 ธ.ค.) เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ พอใจหลังราคายางแผ่นดิบปรับขึ้นอยู่กิโลกรัมละ 67.19 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงหากเปรียบเทียบช่วงเดียวกันในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งยางแผ่นดิบจะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น ทั้งคาดการณ์ว่า แนวโน้มราคายางปีนี้จะปรับสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท อาจเนื่องมาจากพื้นที่ปลูกยางพาราหลายจังหวัดภาคใต้ประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางได้ จึงมีปริมาณยางเข้าสู่ตลาดน้อย
ประกอบกับปีที่ผ่านมา ยางพาราในเขตพื้นที่ภาคอีสานประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้เกษตรกรในภาคอีสานไม่มียางเก็บสต๊อก ทั้งการซื้อขายในตลาดต่างประเทศปรับขึ้น ทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็นช่วงนี้ยังส่งผลดีทำให้ปริมาณน้ำยางที่กรีดได้เพิ่มขึ้นจากปกติถึง 40 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ชาวนสวนยางอีสาน อยากให้รัฐบาลช่วยหาตลาดส่งออกยางให้แก่ผู้ส่งออก เพื่อกระตุ้นราคายางในประเทศให้สูงขึ้น จากข้อมูลพบว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 270,000 ไร่ เปิดกรีดแล้วประมาณ 210,000 ไร่ ผลผลิตน้ำยางกว่า 60,000 ตัน คาดจะนำรายได้เข้าจังหวัดกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา
นายวิชิต ลี้ประเสริฐ เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และนายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ช่วงนี้เกษตรกรผู้ปลูกยางในพื้นที่ภาคอีสานต่างพอใจ หลังราคายางปรับขึ้นในราคากิโลกรัมละร่วม 70 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มยังคาดว่าจะปรับขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท
หลังจากราคายาง 3 ปีที่ผ่านมา ตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น จึงแนะให้เกษตรกรเก็บสต๊อกยางไว้ก่อนในช่วงนี้ ให้ขายเฉพาะที่จำเป็น เพราะเชื่อว่าราคายางจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขอให้รัฐบาลช่วยเหลือหาตลาดส่งออกให้ผู้ค้ายาง เพื่อกระตุ้นราคายาง ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย