ธ.ก.ส. เตรียมสินเชื่อพยุงราคายางพารา 15,000 ล้านบาท หวังดึงยางออกจากระบบ 200,000-300,000 ตัน และทำให้ราคายางทรงตัวได้ จากเดิมมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากปัจจุบันราคา 54.99 บาทต่อกิโลกรัม
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบให้ธนาคารของรัฐทั้ง ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือชาวสวนยาง สำหรับ ธ.ก.ส. เตรียมสินเชื่อให้สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้รวบรวมยาง วงเงิน 10,000 ล้านบาท และสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท คาดว่าสหกรณ์เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 723 แห่ง
โดยทั้ง 2 โครงการขณะนี้เตรียมพิจารณาให้สินเชื่อแล้ว 281 แห่ง วงเงิน 2,880 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินกู้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557-30 มิถุนายน 2558 คืนเงินกู้ไม่เกิน 12 เดือน โดยสหกรณ์จะรับภาระดอกเบี้ยเงินกู้เพียงร้อยละ 1 ต่อปี และรัฐบาลอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้ให้ร้อยละ 3 ต่อปี คาดว่าจะรวบรวมยางพาราได้ประมาณ 100,000 ตัน
ส่วนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อวงเงิน 3,500 ล้านบาท สำหรับการปรับปรุงโรงงาน โดยเอกชนจ่ายภาระดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 รัฐบาลชดเชยร้อยละ 3 ส่วนที่เหลือกองทุนช่วยเหลือชาวสวนยางช่วยเหลืออีกด้านหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะใช้รวบรวมยางสำหรับแปรรูปเพื่อการส่งออก และผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 100,000 ตัน
ขณะที่ธนาคารออมสิน เตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อให้สถาบันเกษตรกรวงเงิน 15,000 ล้านบาท คาดว่าแบงก์รัฐจะช่วยดึงยางพาราออกจากระบบได้ 200,000-300,000 ตัน และทำให้ราคายางทรงตัวได้ จากเดิมมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากปัจจุบันราคา 54.99 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ ราคายางพาราที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากสตอกยางพาราของไทยล้นระบบจำนวนมาก และจีนมีความต้องการซื้อยางจากไทยลดลง เพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และขณะนี้เป็นปีแรกที่จีนเริ่มกรีดยางได้เองแล้ว จึงลดกำลังซื้อจากไทย นอกจากนี้ ยังพร้อมขยายเวลาชำระหนี้ให้ชาวสวนตามความเหมาะสมแต่ละราย และสอดคล้องต่อศักยภาพที่แท้จริง ขณะนี้กู้เงิน ธ.ก.ส. 360,000 ราย คิดเป็นเงิน 40,000 ล้านบาท
