ฉะเชิงเทรา - ตำรวจภาค 2 พร้อมตำรวจเมืองแปดริ้ว บุกจับเจ้าพ่อปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดหน้าวัดโสธร หลังมีร้านค้าขายข้าว และร้านอาหารตามสั่งของชาวบ้านถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าทุบทำลายเสียหายยับ หลังส่งดอกเบี้ยโหดให้ไม่ทัน พบมีบัญชีเงินกู้มากกว่า 180 เล่ม พร้อมเงินสดกว่าแสนบาท
ค่ำวันที่ 15 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บังคับการสืบสวนภาค 2 พร้อมกำลัง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 2 และฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ได้บุกเข้าทำการตรวจค้นจับกุมตัว นายบุญยืน หนูชาวนา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 ม.7 ต.โสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณด้านหน้าโรงลิเก ฝั่งตรงข้ามกับพระอุโบสถหลังใหญ่วัดโสธรวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีปล่อยเงินกู้แบบพก จำนวน 180 เล่ม เงินสด จำนวน 140,200 บาท เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง ปากกาลูกลื่น 3 ด้าม บัญชีการปล่อยเงินกู้แบบรายวันบันทึกตัวเลขจำนวนเงิน 3 แผ่น กระเป๋าสะพายสายสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ พร้อมตั้งข้อกล่าวหาว่า “ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3) และประกอบธุรกิจให้สินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นายบุญยืน ให้การว่า ได้ลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบ และเรียกเก็บเงินเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง โดยที่มีลูกค้ามาขอกู้เงินตามบัญชีที่ถูกตรวจยึดได้จำนวนกว่า 100 ราย โดยรายล่าสุดนั้นได้ปล่อยเงินกู้ให้แก่ลูกค้ารายหนึ่งไปในวงเงิน 40,000 บาท โดยจะมาเรียกเก็บเงินคืนรายวันในอัตราวันละ 480 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 48,000 บาท โดยได้ทำการเก็บคืนมาแล้ว จำนวน 3 งวด
หลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แล้วพบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปีตามที่กฎหมายกำหนดจริง จึงได้ทำการควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุการณ์มีคนร้ายซึ่งเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหลายคน ได้ขับรถยนต์กระบะเข้าไปในหมู่บ้านข้างวัดคู้เกษมสโมสร พื้นที่ ม.3 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา และได้ทำการก่อเหตุบุกเข้าทุบทำลายพังร้านค้าขายข้าว อาหาราตามสั่ง และร้านก๋วยเตี๋ยว ของนางเอื้ออารีย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี จนได้รับความเสียหาย มีข้าวของถูกทุบทำลายเสียหายจนหมดทั้งร้าน ทั้งตู้ก๋วยเตี๋ยว ตู้กับข้าว อาหารตามสั่ง ตลอดจนเครื่องครัว
นางเอื้ออารีย์ กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยให้แก่นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดดังกล่าว โดย นางเอื้ออารีย์ ระบุว่า ที่ผ่านมากลุ่มของคนร้ายเคยเข้ามาข่มขู่ว่าจะเข้ามาทำร้าย เผาบ้าน และบุกพังทำลายร้านค้ามาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่ากลุ่มแก๊งเงินกู้จะกล้าเข้ามาลงมือทำจริงๆ จึงหวั่นเกรงว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตรายจากขบวนการของแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบเหล่านี้
