ฉะเชิงเทรา - วัดบ้านโพธิ์ แจงเศียรหลวงปู่ทวดวางตั้งกลางลานวัด ถูกสังคมโลกไซเบอร์นำไปแชร์ติติงให้อื้อฉาวในโซเชียล วอนให้เข้ามาดูถึงเจตนาดีที่สร้างด้วยความศรัทธาของทางวัด และชาวพุทธ ที่จะพัฒนาชุมชนให้เจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำอำเภอ พร้อมขอให้คนในสังคมเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์
วันนี้ (14 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.พระครูโพธิศรี ธรรมพินิจ อายุ 50 ปี พรรษา 28 เจ้าอาวาสวัดบ้านโพธิ์ ตั้งอยู่เลขที่ 95 ม.1 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกระแสติติงผ่านทางโลกโซเชียลต่อการนำเศียรจำลองของรูปหลวงปู่ทวดขนาดใหญ่ มาตั้งวางไว้ที่กลางบริเวณลานวัดเพื่อให้นักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนที่ผ่านไปมาได้แวะกราบไหว้บูชานั้นว่า อาตมา ก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกันโดยเฉพาะคำพูดบางคำที่ฟังดูแล้วไม่ค่อยสบายใจนัก
ถ้าเปลี่ยนคำพูดในทางสร้างสรรค์ขึ้นอีกสักนิดก็จะถือเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะประการสำคัญถ้าเปลี่ยนจากสะเทือนใจชาวพุทธ มาเป็นร่วมสร้าง อาตมาว่า ก็น่าจะดึงศรัทธาญาติโยมได้มากกว่านี้ เพราะอันที่จริงคำพูดโยมนั้นสำคัญ โดยเจตนาไม่ได้คิดลบหลู่ดูหมิ่น หรือว่าต้องการเอารูปหลวงปู่นั้นมาสร้างทำไว้เพียงแค่สวยๆ งามๆ เท่านั้น แต่ที่ทำไปเป็นด้วยความศรัทธาโดยไม่ได้นึกสนุกแล้วจะทำขึ้นมา แต่เจตนา หรือเป้าหมายนั้นเพราะอาตมามีความศรัทธา พร้อมด้วยญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายนั้นก็ต่างเป็นผู้ที่มีความศรัทธา และต้องการที่จะสร้างให้สำเร็จทั้งองค์
ไม่ใช่ว่าจะเอาเศียรมาตั้งไว้เฉยๆ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตอกเสาเข็มในการสร้างไปแล้วด้วยเงินกว่า 2 ล้านบาท โดยทางวัดก็ได้มีพิธีการวางศิลาฤกษ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีทั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่น นายฐิระวัฒน์ กุลละวณิชย์ อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และมีอาจารย์ประกาย ณ สงขลา ประธานสถาบันโหราศาสตร์สากล มาเป็นเจ้าพิธี ตลอดจนภาคเอกชน ข้าราชการ พุทศาสนิกชนต่างๆ ที่เดินทางมาร่วมงานกันกว่า 1 พันคน
โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการออกแบบโครงสร้าง และวางรากฐานองค์พระหลวงปู่ทวดทั้งองค์ที่จะมีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยจะมีขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา หรือ 16 เมตร สูง 17 เมตร ส่วนการที่นำเอาเศียรมาตั้งวางไว้ยังที่บริเวณกลางลานวัดนั้นก็ได้พูดคุยกันกับกรรมการวัดแล้วว่า หากจะเอาไปตั้งไว้ยังที่อื่นก็อาจจะไม่เหมาะสมมากยิ่งกว่า เช่น หากจะเอาไปตั้งไว้ที่ด้านหลังวัดซึ่งก็มีแต่ป่าหญ้าก็จะเป็นการที่ไม่ให้เกียรติแก่หลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง
เพราะวัดก็มีสถานที่จำกัดอยู่เท่านี้ และเมื่อญาติโยมผ่านไปมายังได้มีโอกาสเข้ามากราบไหว้ และยังได้เห็นว่าวัดนี้ได้มีการสร้างหลวงปู่ก็จะได้ร่วมทำบุญกัน เจตนาก็มีอยู่เพียงเท่านี้ ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น ไม่ใช่การเอามาตั้งโชว์ หรือไม่เคารพ และเศียรหลวงปู่ที่วางอยู่ก็ยังมีฐานแท่นบูชารองรับ
ในการก่อสร้างแต่ละขั้นตอนนั้นมีราคาค่อนข้างสูง โดยคาดว่าอาจต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างจนเสร็จสิ้นมากถึงกว่า 30 ล้านบาท ขณะที่ทางวัดนั้นก็มีกำลังทรัพย์อยู่ไม่มาก แต่ก็ต้องทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่นั้นยังบอกไม่ได้ แต่ก็จะทำต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงอยากวอนสื่อต่างๆ นั้นได้ใช้คำที่สร้างสรรค์ หรือช่วยกันสร้างช่วยกันทำ
หากใช้คำที่ไม่ดีแล้วนั้นก็จะทำให้ผู้ที่มีความศรัทธาไม่ค่อยสบายใจ และโดยส่วนตัวอาตมาเองนั้นก็ไม่สบายใจกับคำต่างๆ เหล่านี้ ถ้าหากจะบอกว่าเปลี่ยนจากคำว่าสะเทือนขวัญประชาชนชาวพุทธ มาเป็นร่วมสร้างก็คงไม่มีอะไรที่สะเทือนใจ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มาสะเทือนเอาวันที่พูดนี่แหละ ในวันอื่นๆ นั้นก็ไม่มี
สำหรับความเป็นมา หรือเจตนารมณ์ที่จะสร้างองค์หลวงปู่ทวดขึ้นมานั้นก็เกิดจากพลังของญาติโยมที่มีความศรัทธา ที่มีแนวคิดว่าจะสร้างปูชนียวัตถุขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ และให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ ไม่มีนัยอะไรเป็นพิเศษ โดยมีเพียงแต่ความศรัทธาเท่านั้นที่เป็นพิเศษ มีการทำเป็นขั้นเป็นตอนมาแล้วประมาณ 3-4 ปี เริ่มจากการปั้นเศียรหลวงปู่ ต่อมา ก็ได้มีการตอกเสาเข็ม การวางศิลาฤกษ์ และลำดับต่อมาคือ ขั้นที่ 4 ในขณะนี้ก็คือ การให้ช่างเข้ามาออกแบบโครงสร้างฐานด้านล่าง ขณะนี้ได้ใช้ทุนไปแล้วทั้งหมดจำนวนกว่า 3 ล้านบาท
จึงอยากจะบอกไปยังโลกภายนอกว่า ทางวัดไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดี โดยในใจนั้นมีแต่ความศรัทธาในหลวงปู่เกินกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ และมีความมุ่งมั่นว่าจะสร้างหลวงปู่ให้แล้วเสร็จ ส่วนเวลานั้นยังบอกไม่ได้จริงๆ แต่หากจะให้เสร็จเร็วไวก็อยากให้ญาติโยมที่รับทราบแล้วเข้ามาร่วมกันทำบุญก็จะทำให้แล้วเสร็จได้ไวขึ้น
ส่วนความตั้งใจลึกๆ นั้น ก็อยากจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้มีเกิดขึ้นภายในอำเภอบ้านโพธิ์ เพื่อให้ลูกศิษย์ หรือผู้ที่มีความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด จะได้ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงยังภาคใต้ ขณะอีกความหวังหนึ่งหากองค์หลวงปู่ได้สร้างสำเร็จ ก็อาจจะสร้างความเจริญให้แก่ชุมชนคนพื้นที่นี้ อย่างเช่น วัดสมานรัตนาราม ที่มีชื่อเสียง และโด่งดังในการสร้างอุทยานเทวรูปต่างๆ ทางศาสนา โดยหากทางวัดมีกำลังทรัพย์เหลือเฟือก็ยังสามารถที่จะเจือจุนไปยังเด็กเล็กในโรงเรียนที่อยู่ข้างๆ และในวัดนี้ได้ เช่น การสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา คอมพิวเตอร์ ทุนการศึกษาต่างๆ ที่ยังขาดแคลนไม่พอเพียง แต่ก็ยังเป็นความฝันที่ยังอีกยาวไกล