แก๊งหนี้นอกระบบเหิมพังประตูบ้านทวงหนี้ ทำสามแม่ลูกอยู่ลำพังผวา

ฉะเชิงเทรา - แก๊งทวงหนี้นอกระบบเหิมพยายามพังประตูบ้านทวงหนี้ พร้อมขู่ฆ่าให้ตาย ทำสามแม่ลูกเด็กอ่อนอยู่เพียงลำพังผวาหนัก ก่อนตามผู้เป็นสามีกลับมาจากการทำงานพาเข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ เผยไม่ใช่ผู้กู้โดยตรง แต่ต้องมาได้รับความเดือดร้อนแทนน้องสาวที่หนีไป

วันนี้ (1 ก.ค.) นายวิชวัชชัย นนทศรี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 149 ถ.ระเบียบกิจอนุสรณ์ ต.บางคล้า อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้เข้าพบ ร.ต.ท.จตุรโชค เพชรคง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พนักงานสอบสวนเวร เพื่อแจ้งความร้องทุกข์แทนภรรยา หลังจากมีคนร้ายซึ่งเป็นแก๊งทวงหนี้นอกระบบบุกเข้าไปรื้อพังประตูห้องพักเลขที่ 353/3 ถ.สิริโสธร (ฉะเชิงเทรา-บางปะกง) ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีภรรยา และบุตรชายวัย 6 ขวบ และบุตรสาววัย 8 เดือน อยู่กันเพียงลำพัง

โดย นายวิชวัชชัย เผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างเหมาทั่วไป ขณะเกิดเหตุได้ออกไปทำงานแล้ว โดยมีภรรยา และบุตรชายหญิงสองคนอยู่กันตามลำพังในห้องพัก ได้มีแก๊งทวงหนี้นอกระบบซึ่งเป็นชายหญิง 2 คน ขับรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน บุกเข้ามาเรียกทวงหนี้นอกระบบ และพยายามจะพังประตูบ้านเข้าไปทวงหนี้จนถึงภายในห้องพัก

แต่โชคดีที่ภรรยาตนที่เปิดเพียงแง้มแต่ประตูไม้หน้าห้องทิ้งไว้ แต่ได้ล็อกกลอนของประตูลูกกรงเหล็กไว้ที่ด้านใน คนร้ายจึงไม่สามารถเข้าไปยังภายในห้องพักได้ แต่ก็ได้พยายามที่จะรื้อ และพังประตูเข้าไป แต่ไม่สำเร็จ จึงได้พูดขู่เอาไว้ว่าจะฆ่าให้ตาย ก่อนที่จะพากันกลับไป หลังจากตนทราบเหตุจึงได้เดินทางกลับเข้ามายังห้องพัก และเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อแก๊งทวงหนี้นอกระบบรายนี้

โดยสาเหตุที่ถูกแก๊งหนี้นอกระบบเข้ามาติดตามทวงหนี้นั้น เป็นเพราะก่อนหน้านี้ น้องสาว และน้องเขยของภรรยาได้เคยเข้ามาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน และได้ไปกู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้นอกระบบมาใช้ จำนวน 7,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 และหลังจากนั้น น้องสาวของภรรยาได้พากันหนีไป และไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหนเพราะไม่สามารถติดต่อกันได้มาเป็นเวลาประมาณ 7 เดือนแล้ว ฝ่ายเจ้าหนี้จึงได้มาติดตามทวงเอากับทางฝ่ายภรรยาของตน ซึ่งยังคงพักอาศัยอยู่ภายในห้องเช่าที่เดิมแห่งนี้ และยังมาถูกขู่ฆ่าด้วย

ด้าน น.ส.อารีย์ สิทธิ อายุ 30 ปี ผู้ที่ถูกแก๊งทวงหนี้พยายามที่จะบุกเข้าไปยังภายในห้องพัก กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังอยู่ในห้องพักเลี้ยงบุตรสาววัย 8 เดือน และบุตรชายวัย 6 ขวบอยู่ภายในห้อง ได้มีแก๊งทวงหนี้บุกเข้ามาติดตามทวงหนี้ พร้อมกับขู่ว่าว่าจะฆ่าให้ตาย อย่าให้เจอตัวนะ โดยสาเหตุนั้นมาจากน้องสาวได้เคยเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย และได้นำเอาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมทะเบียนบ้านไปขอกู้เงินจากผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบมาใช้ จำนวน 7 พันบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน

ก่อนที่น้องสาวจะหนีไปก็ยังเห็นส่งเงินใช้หนี้ได้ประมาณ 2 เดือน จนสามารถใช้หนี้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นหมดไปได้แล้วจำนวนครึ่งหนึ่งของยอดเงินที่กู้มา แต่หลังจากน้องสาวหนีหายตัวไป ทราบว่าผู้ปล่อยเงินกู้นั้นได้ทบต้นทบดอก จนมียอดเงินเพิ่มขึ้นถึงกว่าหนึ่งหมื่นบาทแล้ว และได้เข้ามาติดตามทวงเงินเอากับตน ซึ่งตนก็ได้บอกกับพวกเขาไปว่า หากติดต่อน้องสาวได้แล้วจะบอกเขาให้ แต่เขาก็ยังเข้ามาติดตามทวงบ่อยถึง 6 ครั้งแล้ว