ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสืบสวนสอบสวน ภาค 2 นำหมายจับรวบ 18 มงกุฎ ต้มตุ๋นฉ้อโกงชาวนาใน จ.ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โดยรับซื้อข้าวเปลือกราคาสูงนำไปขายให้โรงสี แต่ไม่เอาเงินมาให้เกษตรกร 11 ราย เป็นเงินกว่า 1.1 ล้านบาท
วันนี้ (1 ก.ค. ) ที่ห้องสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกันแถลงข่าว
พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า หลังนำหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ 140, 141, 143, 145, 150, 151, 153, 155, 157/2559 ลงวันที่ 16 มิ.ย.59 และหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 153/2559 ลงวันที่ 11 พ.ค.59 รวม 11 หมาย เข้าไปจับ นายวิสุทธิ์ เปรมดิษฐ์ หลังหลบหนีมาทำงานก่อสร้าง และกบดานได้ที่พื้นที่ก่อสร้างแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์
ทั้งนี้ นายวิสุทธิ์ มีพฤติกรรมร่วมกับ นางนภัสพร วรสวัสดิ์ หรือชื่อเล่นริน สองสามีภรรยาอ้างว่าเป็นพ่อค้าข้าว เข้าไปติดต่อซื้อข้าวเปลือกให้ราคาสูงกับเกษตรชาวนาในพื้นที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ในราคาสูงถึงตันละประมาณ 7-8 พันบาท เมื่อตกลงกันได้แล้วก็จะหลอกลวงว่าขอนำข้าวไปสีก่อน หากสีข้าวเสร็จจะนำเงินมาให้ชาวนาในเวลาไม่เกิน 1 วัน โดยให้รถบรรทุกโรงสีแห่งหนึ่งเข้ามาบรรทุกถึงที่
แต่ภายหลังได้รับข้าวแล้ว นายวิสุทธิ์ กับพวกก็ไม่เอาเงินให้เกษตรกรชาวนา พร้อมกับหลบหนีไป เป็นเหตุให้ชาวนา 11 ราย ที่แจ้งความไว้หลงเชื่อถูกหลอกได้รับความเดือดร้อน สูญข้าวไปรวมกันถึง 156.2 ตัน คิดมูลค่าเสียหายกว่า 1,156,007 บาท
โดยก่อนหน้านี้ นางนภัสพร วรสวัสดิ์ ผู้ต้องหาอีกคนซึ่งเป็นภรรยาของ นายวิสุทธิ์ ได้ติดต่อขอมอบตัวสู้คดีต่อ สภ.พนัสนิคม ไปแล้ว
พล.ต.ต.เชษฐา ผบก.สส.ภ.2 ยังกล่าวว่า หากใครที่เห็น หรือจำได้ว่า นายวิสุทธิ์ เคยฉ้อโกงรับซื้อข้าวเปลือกแล้วเชิดหนีหายก็ขอให้เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ สภ.พนัสนิคม
ส่วนชาวนาต่างก็กล่าวว่า นายวิสุทธิ์ พร้อมภรรยา ได้เข้ามาติดต่อที่นาข้าวว่า จะรับซื้อข้าวเปลือกโดยให้ราคาสูง พอตกลงก็จะมาเกี่ยวเองแล้วนำรถมาทุกข้าวเปลือกไป อ้างว่านำไปสีก่อนแล้วจะนำเงินมาให้ พอเอาไปก็หนีหาย พวกตนก็ต้องหมดเนื้อประดาตัว บ้างก็ต้องนำทรัพย์สินที่บ้านไปขายประทังชีวิต บางรายก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน ไปใช้หนี้ร้านปุ๋ยบ้าง แต่ยังดีใจตำรวจจับได้แล้ว