ฉะเชิงเทรา - พ่อหนุ่มวัย 19 ปี ที่ถูก 2 ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด พร้อมชายฉกรรจ์รวม 4 คน อุ้มหายไปนานกว่า 7 เดือนเต็มแล้ว ล่าสุด คดียังไม่ถูกส่งฟ้องต่อศาล บุกเข้ายื่นหนังสือถึง ผบก.ฉะเชิงเทรา อีกครั้ง ด้าน ผบก.แปดริ้ว แจงคดีส่งถึงอัยการนานแล้ว แต่ถูกส่งต่อไปยัง ป.ป.ท. ระบุเห็นใจญาติ พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้สูญหาย และไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. นายเผชิญ ศรีคะโชติ อายุ 42 ปี บิดาของ นายณัฐพงศ์ ศรีคะโชติ อายุ 19 ปี หนุ่มเคราะห์ร้ายที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คนอ้างตัวว่าเป็นตำรวจอุ้มตัวหายออกไปจากบ้านพักเลขที่ 77/7 หมู่ 1 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เมื่อ เวลา 14.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค.58 ที่ผ่านมา พร้อมด้วย น.ส.นฤพัชร ศรีคะโชติ อายุ 37 ปี ผู้เป็นอา
ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าติดตามความคืบหน้าของคดี และยื่นหนังสือร้องขอให้ทางพนักงานสอบสวนนำพยานหลักฐานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่สามารถเก็บรวบรวมได้นำมารวมกับพยานหลักฐานของทางฝ่ายตำรวจ เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อ 2 นายตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ที่ถูกชี้ตัวว่าเป็น 2 ใน 4 คนร้าย ที่บุกเข้าไปอุ้มตัวผู้สูญหายออกไปจากบ้านพักโดยมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนในวันเกิดเหตุ
โดย นายเผชิญ และ น.ส.นฤพัชร กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามายื่นเอกสารเกี่ยวกับพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากดีเอสไอ เพื่อให้ทางตำรวจได้นำพยานหลักฐานจากดีเอสไอ รวมเข้ากับสำนวนของพนักงานสอบสวนในการส่งฟ้องต่อศาลเกี่ยวกับคดีของ นายณัฐพงศ์ ที่ถูกอุ้มตัวหายออกจากบ้านไปเป็นเวลานานถึงกว่า 7 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีไปมากนัก จึงได้เข้ามายื่นหนังสือขอให้ทาง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้เรียกพยานหลักฐานจากทาง DSI เข้ามารวมกันในสำนวนคดีเพิ่มเติม
เนื่องจากทางดีเอสไอนั้นมีหลักฐานมากเพียงพอจนเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดต่อคนที่ทำผิดได้ ในการที่จะส่งฟ้องไปยังศาลได้พิจารณาต่อไป
“โดยวันนี้จะเข้ามายื่นเรื่องต่อทางฝ่ายตำรวจทั้ง 2 หน่วยงานคือ ทั้ง ผบก.ฉะเชิงเทรา และ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยที่ผ่านมา ก็ได้มีการเข้ามาสอบถามติดตามคดีอยู่เป็นระยะ และทราบว่าหลักฐานจากทางดีเอสไอที่ลงพื้นที่เข้ามาเก็บรวบรวมนั้นก็มีมากเพิ่มขึ้นพอสมควร จึงอยากจะให้ทางตำรวจนำเข้าไปรวมกันในสำนวนการฟ้องคดีด้วย” น.ส.นฤพัชร กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสรุปสำนวนการสอบสวน และมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปยังอัยการจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว แต่ต่อมา ทางพนักงานอัยการจังหวัด ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้กระทำผิดนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงน่าจะส่งเรื่องไปให้ทาง ป.ป.ท.ดำเนินการพิจารณา ทางอัยการจึงได้ส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ท.
“ปัจจุบันนี้สำนวนคดีจึงอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ท. โดยทาง ป.ป.ท.กำลังพิจารณาดูว่า จะเห็นควรสั่งฟ้องหรือว่าสั่งไม่ฟ้อง หรืออาจจะเห็นว่าการกระทำของสองนายตำรวจนั้นไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจจะส่งสำนวนกลับมายังที่อัยการจังหวัดฉะเชิงเทราอีกครั้ง เพื่อให้ทางอัยการเป็นผู้สั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป” พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
พร้อมกล่าวต่อทางญาติของผู้สูญหายอีกว่า ก็รู้สึกเห็นใจต่อทางญาติของผู้สูญหาย และทางตนก็ได้ให้ความเป็นธรรม และตามดูคดีให้อยู่แล้ว และไม่ได้เข้าข้างใครฝ่ายใด หากทางตำรวจทำผิดก็ว่าไป อยู่ที่ศาลจะตัดสินคดีไปตามพยานหลักฐาน พล.ต.ต.ธีรพล กล่าว
ต่อมา ในเวลา 11.50 น. นายเผชิญ ศรีคะโชติ และ น.ส.นฤพัชร ศรีคะโชติ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณรงค์เดช ทัพพะจายะ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อยื่นหนังสือลักษณะเดียวกัน ในการร้องขอให้ทางพนักงานสอบสวนเรียกพยานหลักฐานจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาประกอบสำนวนในการยื่นฟ้องต่อศาลด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับนายตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 2 นาย ที่ถูกชี้ตัวว่าเป็นคนร้ายที่บุกเข้าไปอุ้มตัว นายณัฐพงศ์ ศรีคะโชติ หนุ่มวัย 19 ปี หายออกไปจากบ้านพักต่อหน้าคนในบ้าน และมีพยานที่เห็นเหตุการณ์จำนวนหลายราย คือ ดต.อัตชัย คล้ายวงษ์ (ดาบเสือ) อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.14 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และ ร.ต.ท.รังษิต วรหวัง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 ม.6 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายโชคทวี แผ่นสุวรรณ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 ม.4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และ นายนันธวัฒน์ เชียงแก้ว อายุ 26 ปี ผู้ที่รู้จักกันกับผู้สูญหาย