เลย - หลังฝนแรกเติมเต็มแหล่งน้ำธรรมชาติที่บ้านหนองคัน ต.หนองคัน เสียงกบ เขียด อึ่งอ่างออกร้องหาคู่กันระงม คาดมีนับหมื่นนับแสนตัว เผยเป็นผลจากการทำประชาคมหมู่บ้านเมื่อ 8 ปีก่อน ไม่จับกินในฤดูผสมพันธุ์วางไข่ ทำให้ชาวบ้านมีอาหารตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มขึ้น จนหลายตำบลใกล้เคียงใช้เป็นต้นแบบร่วมอนุรักษ์
ในพื้นที่ จ.เลย โดยเฉพาะที่บ้านหนองคัน ต.หนองคัน อ.ภูหลวง ภายหลังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องในห้วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสามัคคีของชาวบ้านในท้องถิ่นช่วยกันอนุรักษ์ ทั้งนี้เพราะหลังฝนตกมีน้ำท่วมขังตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้กบ เขียด อึ่งอ่าง ที่จำศีลตามภูเขาหรือในหนองคลองบึงต่างออกมาหากินและร้องหาคู่กันเสียงดังระงม เสียงร้องดังไกลได้ยินกันทั่วทั้งหมู่บ้าน คาดว่ามีกบ เขียด อึ่งอ่าง รวมกันนับหมื่นนับแสนตัว
นายสมยศ วิปัสสา ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลหนองคัน อ.ภูหลวง ในฐานะหัวหน้าทีมวิจัยไทบ้าน กบ เขียด อึ่งอ่าง กล่าวถึงที่มาของกบ เขียดหรืออึ่งอ่างที่มีจำนวนมากบริเวณโดยรอบแหล่งน้ำธรรมชาติของวัดภูผาแดง บ้านหนองคัน ต.หนองคัน
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อราว 8 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองคันได้ทำประชาคมหมู่บ้านร่วมอนุรักษ์สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเหล่านี้ โดยสร้างพันธสัญญาจะไม่จับกบ เขียด อึ่งอ่างมาทำอาหารในช่วงฤดูผสมพันธุ์วางไข่ เพราะสำรวจดูแล้วขณะนั้นในพื้นที่เหลือสัตว์เหล่านี้น้อยมาก
“ชาวบ้านเราจึงร่วมกันทำกิจกรรมจับคู่บรรดา กบ เขียดและอึ่งอ่างให้แต่งงานผสมพันธุ์กัน เพื่อให้ขยายพันธุ์อย่างเต็มที่ ต้องการเพิ่มปริมาณกบ เขียด อึ่งอ่างให้มีมากขึ้น พวกเราทำกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี” นายสมยศกล่าว และว่า ผลจากที่กุศโลบายดังกล่าวทำให้เห็นได้ชัดในปีต่อๆ มาที่ในพื้นที่มีจำนวน กบ เขียด อึ่งอ่างเพิ่มมากขึ้นจริงๆ ดังนั้น หลังจากเข้าสู่หน้าฝนหรือฝนตกมาใหม่ๆ มีน้ำไหลเข้าตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ห้วย หนอง คลอง บึง กลายเป็นแหล่งรวมของกบเขียดหรืออึงที่จะมาออกมาผสมพันธุ์ ร้องเสียงดังระงมให้ได้ยินไปทั้งหมู่บ้านซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีน้ำใหม่เข้ามาเติมเต็มให้กบ เขียดวัยหนุ่มสาวได้ออกมาผสมพันธุ์
นายสมยศเล่าอีกว่า ในช่วงต้นฝนบ่อยครั้งที่จะได้ยินเสียงกบ เสียงเขียดออกมาร้องเรียกคู่ ที่ดังมาก ไกลกว่า 1 กิโลเมตร ในช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านในระแวกนี้สามารถจับ กบ เขียด หรืออึ่งอ่างมาประกอบอาหารได้เพิ่มขึ้น แต่เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ตามธรรมชาติแล้วก็จะเป็นที่รู้กันว่าต้องหยุดจับกินทันที โครงการอนุรักษ์ที่ทำมาร่วม 8 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
จนปัจจุบันนี้ได้มีการขยายผลโครงการไปยังพื้นที่ตำบลข้างเคียง เช่น ต.แก่งศรีภูมิ บ้านฟากเลย และพื้น ต.ห้วยสีเสียด ออกไปอีกหลายหมู่บ้าน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ยามฤดูวางไข่ ให้แพร่พันธุ์สามารถเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติอย่างยั่งยื่นไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน