กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี พร้อมนายอำเภอเมืองกาญจน์ ทหาร และตำรวจสนธิกำลังจับกุมรีสอร์ตชื่อดังหลังลักลอบเปิดให้บริการทั้งที่ถูกสั่งปิด เหตุไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งยังรุกที่ทหาร ขณะสัมภาษณ์ถูกหญิงลึกลับแฝงตัวเข้ากลุ่มสื่อตะโกนขอความเป็นธรรม ทั้งโวยวายอย่างวกวน ทั้งยังจำชื่อหลานไม่ได้ ทำอึ้งทั้งคณะ
เมื่อเลา 18.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ขณะที่ นายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายยงยุทธ สุโนภักดิ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี นายฉกาด อาสาสนา ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ท.วัชรภ บุรินทร์วัฒนา ผบ.ชป.พท.ร.9 พัน.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดกาญจนบุรี และ อส.อำเภอเมืองกาญจนบุรี
เข้าจับกุมผู้ประกอบการห้องพักลักษณะคล้ายรีสอร์ตหรู โดยมีป้ายระบุชื่อ ที่พิเศษ ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาพื้นที่หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี การเข้าจับกุมครั้งนี้เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวก่อสร้างโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งพื้นที่เป็นเขตทหารที่อยู่ในความรับผิดชอบของทหาร และที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง ในที่สุด การไฟฟ้าจังหวัดกาญจนบุรี จึงดำเนินการงดจ่ายกระแสไฟฟ้ามาแล้วจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับสั่งปิดกิจการจนกว่าผู้ประกอบการจะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง และเรื่องอยู่ในชั้นศาล
แต่ในที่สุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรี สืบทราบในเชิงลึกว่า สถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบเปิดให้บริการห้องพักแก่ลูกค้ารายวัน โดยใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าขนาดใหญ่มาจ่ายกระแสไฟ เมื่อสืบทราบว่า เป็นจริง นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อห้องพักดังกล่าวในราคา 530 บาท พร้อมกับขอใบเสร็จรับเงินเอาไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ต่อมา เวลาประมาณ 19.00 น. นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี ได้เดินทางมาสั่งการด้วยตนเอง โดยมีสื่อมวลชนเป็นจำนวนมากเดินทางไปทำข่าว และระหว่างที่ นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็นคำถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปในการเข้าจับกุมสถานที่ดังกล่าวอยู่นั้น
ปรากฏว่า มีผู้หญิงรูปร่างท้วม ผิวขาว ผมยาวเดินแทรกเข้ามาในกลุ่มของสื่อมวลชน พร้อมพูดจาเอะอะโวยวายขึ้นมาว่า ทำไม่จะต้องมาจับเฉพาะครัวชมดาว ทำไมไม่ไปจับที่อื่นบ้าง ด้านหลังครัวชมดาวก็มีบ้านพักอยู่เป็นจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ลักษณะเดียวกัน ทำไมผู้ว่าฯ ถึงไม่ไปจับ มาจับเฉพาะครัวชมดาวเท่านั้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผู้หญิงคนดังกล่าวโวยวายสร้างความงุนงงให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก สื่อมวลชนจึงจับภาพไปที่ผู้หญิงคนดังกล่าว พร้อมกับสอบถามว่าเป็นใคร และมีส่วนเกี่ยวข้องต่อสถานที่ที่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมหรือไม่
แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอมตอบคำถาม พร้อมกับร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนที่กำลังจับภาพหญิงคนดังกล่าวอยู่ ซึ่งท่าทางของผู้หญิงคนดังกล่าวนั้นเครียดมาก สื่อมวลชนจึงร้องขอให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยๆ พูดจากกับผู้ว่าราชการจังหวัด และในที่สุด จึงบอกต่อผู้สื่อข่าวต่อหน้าผู้ว่าฯ ว่า ชื่ออรัญญา นามสกุลธนากร อายุ 49 ปี ส่วนเจ้าของนั้นมีศักดิ์เป็นหลาน แต่จำชื่อไม่ได้ว่าหลานชื่ออะไร ยิ่งสร้างความงุนงงให้แก่ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนขึ้นไปอีก โดยตลอดเวลาที่พูดจาโวยวายได้อธิบายเกี่ยวกับการเช่าที่ดินเพื่อสร้างร้านอาหาร และที่พักว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่เข้ามาว่ากล่าวตักเตือนตั้งแต่สมัยที่ยังสร้างไม่เสร็จ เมื่อสร้างเสร็จแล้วค่อยเข้ามาจับกุม ทำอย่างนี้แสดงว่าเจ้าหน้าที่นั้นเลือกปฏิบัติ ถ้าจะจับก็ต้องเข้าไปจับกุมชาวบ้านที่ปลูกบ้านด้านในด้วย เพราะพื้นที่บริเวณนั้นมีทั้ง “บ้านผู้การ” รวมอยู่ด้วย ผู้สื่อจึงถามแทรกว่า บ้านผู้การอะไร ทหาร หรือตำรวจ ทำให้หญิงคนดังกล่าวอึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบว่า ไม่รู้จัก และจำชื่อไม่ได้
ระหว่างนั้น นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี ได้พยายามอธิบายให้เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ว่า คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุม และสั่งปิดบริการมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากสถานที่ก่อสร้างนั้นยังไม่ได้รับอนุญาต และพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทหาร ไม่ใช่ที่ราชพัสดุที่ใครจะมาขอเช่าได้ง่ายๆ และอาคารก่อสร้างก็ฉวยโอกาสสร้างขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง แต่ก็ยังฝ่าฝืนอยู่ และขณะที่ นายศักดิ์ สมบุญโต พยายามอธิบายให้เข้าใจ แต่กลับไม่ยอมรับฟัง พร้อมกับพูดจาวกไปวนมา
แต่ก็รู้เรื่องภายในทุกอย่าง เช่น พื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่ จำนวน 18 ไร่ จ่ายภาษีให้แก่ อบต.แก่งเสี้ยน ประจำทุกปี และที่ดินได้เช่าจากราชพัสดุอย่างถูกต้อง โดย ผวจ.กาญจนบุรี ก็ได้พยายามอธิบายต่อไปว่า ที่ดินเป็นที่ราชพัสดุก็จริง แต่อยู่ในความดูแลของทหาร ร.19 พัน 2 ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากทหารเสียก่อนจึงจะดำเนินการก่อสร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ได้ แต่หญิงคนดังกล่าวก็ยังไม่เข้าใจ และโวยวายอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น คณะเจ้าหน้าที่จึงร้องขอให้ผู้หญิงคนดังกล่าว พร้อมกับหลานนำเอกสารไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็รับปากแต่ต้องให้สื่อมวลชน รวมทั้ง ผวจ.เดินทางไปรับฟังด้วย เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดดูท่าทางแล้วคงจะอธิบายให้ข้าใจลำบาก นายศักดิ์ สมบุญโต จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งนำพนักงานที่รับเงินค่าเช่าห้องจากการล่อซื้อมาสอบปากคำที่ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยที่ผู้หญิงคนดังกล่าวไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ยังคงอยู่ที่สถานที่ดังกล่าว