xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุทยานฯ ดีเดย์ย้ายเสือโคร่งจากวัดป่าหลวงตาบัวรอบสาม 30 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 พร้อมด้วย จนท.กรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าหารือผู้ว่าฯ กาญจนบุรี วางแผนหาแนวทางขนย้ายเสือโคร่งของกลางที่อยู่ในวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค รอบ 3 ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง คาดต้องระดม จนท.เพียบ หวั่นถูกขัดขวางเหมือนขนย้ายหมีในอดีต



เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่ห้องประชุมเอราวัณ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง จ.ราชบุรี) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าพบ นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมวางแผนหาแนวทางขนย้ายเสือโคร่ง พันธุ์เบงกอล เสือโคร่งของกลางที่อยู่ภายในวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

โดยมี พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.อ.ชินโชติ บุญยไพศาลเจริญ รอง ผอ.รมน.กาญจนบุรี พ.อ.ฐนิตพัฒน์ อุทะนุตนันท์ ผู้แทนผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.เสมอ ยิ้มเกียรติ ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม ที่ 1 ภาคกลาง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยไม่มีตัวแทนจากมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ ซึ่งส่วนใหญ่จะพูดคุยเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่จะเข้าดำเนินการขนย้ายเสือในวันที่ 30 พ.ค.ที่จะถึงนี้

นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวในที่ประชุมว่า สำหรับเสือโคร่งในบัญชีมีทั้งหมด 147 ตัว วันที่ 28 ม.ค.กรมอุทยานฯ ย้ายไปแล้ว 5 ตัว และวันที่ 23 ก.พ.กรมอุทยานฯ ย้ายอีก 5 ตัว รวม 10 ตัว ทั้งหมดนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

ส่วนสาเหตุที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องร่วมประชุมกับจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ทางกรมอุทยานฯ จะทำการขนย้ายเสือของกลางเป็นครั้งที่ 3 โดยทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ทส.0909.303/9453 ลงวันที่ 19 พ.ค.59 ถึงประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว เรื่องการขนย้ายเสือโคร่งจากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ในวันที่ 30 พ.ค.59 เป็นต้นไป จนกว่าจะขนย้ายแล้วเสร็จ

แต่ พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ได้ทำหนังสือด่วนแจ้งไปที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า ตามกำหนดเวลาขนย้ายเสือโคร่งของกรมอุทยานฯ นั้น ทางมูลนิธิฯไม่สามารถให้กรมอุทยานฯ เข้ามาขนย้ายเสือโคร่งได้

เนื่องจากขณะนี้มูลนิธิฯ ได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานฯ เป็นคดีอยู่ที่ศาลปกครองกลาง คดีหมายเลข ส.3/2559 เมื่อข้อพิพาทระหว่างผู้ฟ้องคดี และผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวยังเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง ทั้งยังไม่มีคำพิพากษาตัดสินชี้ขาดอย่างใดจากศาลปกครอง ซึ่งถือว่าคดีดังกล่าวนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง จึงเห็นว่าควรรอฟังคำสั่งของศาลปกครองกลางก่อนที่จะดำเนินการใด

การที่ พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ไม่ยินยอมให้กรมอุทยานฯ เข้ามาขนย้ายเสือโคร่งได้ โดยให้เหตุผลข้างต้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงมีความเป็นห่วงว่า ทางวัดจะมีการนำพระลูกวัด รวมทั้งพนักงานที่อยู่ภายในวัดมาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เหมือนเช่นครั้งที่เจ้าหน้าที่มาขนย้ายหมี จำนวน 6 ตัว จึงสั่งการให้ตนมาขอความร่วมมือต่อจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขนย้ายเสือของกลางในวันที่ 30 พ.ค.นี้

โดยหากวันดังกล่าว ทางมูลนิธิฯ หรือผู้ใดก็ตามมาขัดขวางห้ามไม่ให้ขนย้ายเสือ จะถือว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ และเจตนาที่จะครอบครองสัตว์ป่าดังกล่าวซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 มีโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกร้องค่าเลี้ยงดูทรัพย์ (สัตว์ป่า) ที่ฝากทางวัดเฝ้าดูแลตั้งแต่ พ.ศ.2544-2557 เป็นเงินจำนวน 147,444,000 บาท ศาลจังหวัดกาญจนบุรี พิพากษายกฟ้องไปแล้ว

ด้าน นายศักดิ์ สมบุญโต ผวจ.กาญจนบุรี กล่าวภายหลังว่า เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเสือโคร่งของกลางเป็นสัตว์สงวนที่กฎหมายไม่อนุญาตให้ผู้ใดครอบครอง ซึ่งในอดีตทางวัดเคยเลี้ยงเสือมาก่อน แต่กรมป่าไม้ได้เข้าไปจับกุม ภายหลังทางวัดได้ขอเลี้ยงดูเสือของกลางเอาไว้ ทางกรมอุทยานฯ ก็ยอม จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทางกรมอุทยานฯ จึงมาขอขนย้ายเสือเพื่อนำของกลางกลับไปดูแลเองที่จังหวัดราชบุรี

ถามว่ามีความกังวลใจหรือไม่หากมีการขัดขวางเจ้าหน้าที่ไม่ให้ย้ายเสือออกไปจากวัด ซึ่งตรงจุดนี้ตนไม่ห่วง เพราะทุกฝ่ายต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจะได้เข้าไปอธิบายให้แก่ทางวัด รวมทั้งพนักงาน และพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้เข้าใจ โดยหากในวันดังกล่าวตนไม่ติดภารกิจสำคัญก็จะเดินทางไปด้วยตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่า ในวันที่ 30 พ.ค.ที่ทางกรมอุทยานฯ กำหนดขนย้ายเสือของกลางออกจากวัด จะมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังไปดูความปลอดภัย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ขนย้ายเสือเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น