กาญจนบุรี - รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ประจันหน้ารอง ปธ.มูลนิธิวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปัณโณ หรือ “วัดเสือ” อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี เจรจาขนย้ายเสือโคร่งของกลางไร้ผล ต่างฝ่ายต่างขู่ดำเนินคดีซึ่งกันและกัน สุดท้ายกรมอุทยานฯ ต้องขอหมายค้น
ความคืบหน้ากรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งพันธุ์เบงกอล จำนวน 147 ตัว ออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปัณโณ หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้ขนย้ายเสือไปแล้ว 2 ครั้ง คือ วันที่ 28 ม.ค. จำนวน 5 ตัว และวันที่ 23 ก.พ. จำนวน 5 ตัว รวม 10 ตัว ทั้งหมดนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ จำนวน 137 ตัว ที่จะย้ายออกทั้งหมด
ล่าสุด ตั้งแต่เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นางเตือนใจ นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายศิริ อัคคะอัคร ผอ.สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานฯ (ผอ.สปฟ.) นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานฯ นายสุนทร ฉายวัฒนะ ผอ.ส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ นายชาญวิทย์ กันยา นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.อ.ฐนิตพัฒน์ อุทะนุตนันท์ รอง ผบ.ร.29 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี จำนวนมากเดินทางไปที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้นำเต็นท์มากางตั้งเป็นกองบัญชาการชั้วคราวที่บริเวณริมถนนสาย 323 ด้านหน้าวัดป่าฯ หลังจากคณะเจ้าหน้าที่ทั้งมากันอย่างพร้อมเพรียง นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้นำทีมเข้าไปเจรจาขั้นพื้นฐานกับ พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิฯ และกรรมการบริษัท ไทยเกอร์ แทมเพิล จำกัด แต่เมื่อไปถึงประตูทางเข้า ปรากฏว่า ทางวัดป่าฯ ได้นำแผงเหล็กมากั้นทางเข้าเอาไว้ พร้อมกับมีป้ายเขียนข้อความว่าไม่อนุญาตให้เข้า เจ้าหน้าที่ได้แต่ยืนรอ เนื่องจาก พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิฯ และกรรมการบริษัท ไทยเกอร์ แทมเพิล จำกัด ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิศที่อยู่ด้านหน้าวัด
ดังนั้น นายอดิศร จึงมอบหมายให้ นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง จ.ราชบุรี)โทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ขอร้องให้ออกมาเจรจา ในการดำเนินการขนย้ายเสือ ซึ่งไม่นานนัก พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ก็ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวออกมาจากภายในวัด และมาเจรจากับ นายอดิศร ที่บริเวณประตูทางเข้าวัด ท่ากลางกองทัพสื่อมวลชนทั้งชาวไทย และต่างประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนสาย NGO ซึ่งการเจรจาใช้เวลานานกว่า 30 นาที แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ โดยทาง พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ไม่ยอมอนุญาตให้คณะเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการขนย้ายเสือ พร้อมทั้งบอกว่า หากใครฝ่าฝืนเข้าไปจะดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อผู้ที่บุกรุก
ส่วนทาง นายอดิศร บอกว่า หากทาง พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ไม่อนุญาตให้คณะเจ้าหน้าที่เข้าไปขนย้ายเสือ ก็จะดำเนินคดีในข้อหาเจตนาที่จะครอบครองสัตว์ป่า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19 มีโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งบรรยากาศการเจรจาเป็นไปอย่างตึงเครียด ท่ามกลางอากาศที่ร้อบอบอ้าว
โดยหลังจากที่ พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ไม่ยินยอมให้คณะเจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน นายอดิศร จึงได้มอบหมายให้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขออนุมัติหมายค้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดารดำเนินการ โดยหากศาลจังหวัดกาญจนบุรี อนุมัติหมายค้นให้แก่เจ้าหน้าที่เมื่อไหร่ คณะเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งดำเนินการขนย้ายเสือในทันที ขณะเดียวกัน ทาง พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ก็จะยื่นคัดค้านการออกหมายค้นเช่นกัน
สำหรับเสือโคร่งในบัญชีของกลางมีทั้งหมด 147 ตัว วันที่ 28 ม.ค.กรมอุทยานฯ ย้ายไปแล้ว 5 ตัว และวันที่ 23 ก.พ.กรมอุทยานฯ ย้ายอีก 5 ตัว รวม 10 ตัว ปัจจุบัน ยังคงเหลือเสือโคร่งของกลาง จำนวน 137 ตัว ทั้งหมดจะนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยกรมอุทยานฯ ได้เตรียมทีมคณะสัตวแพทย์เอาไว้ จำนวน 5 ทีม เป้าที่วางไว้คือ ขนย้ายเสือวันละ 20 ตัว หรือมากกว่านั้น โดยใช้ระยะเวลาในการขนย้าย 7 วัน
แต่เมื่อเจออุปสรรคดังกล่าวคาดว่าคนต้องใช้เวลานานอีกหลายวันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ คณะเจ้าหน้าที่ยังเกรงว่า ทางวัดป่าฯ จะกลั่นแกล้งด้วยการปล่อยเสือที่มีอยู่ออกมา สร้างความกังวลใจให้แก่เจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับแผนสำรองดังกล่าวแต่อย่างใด
ศาลอนุมัติหมายค้น วัดเสือแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (30 พ.ค.59) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้อนุมัติหมายค้น ที่ มค 432/2559 ให้กับผู้ร้องขอ คือนายสินชัย เอกทรัพย์สกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อทำการตรวจค้นวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน และมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีพระสุทธิสารเถร เป็นเจ้าอาวาสและประธานมูลนิธิ และนายอธิธัช ศรีมณี ผู้ดูแลแล้ว