กาญจนบุรี - ฮือฮาเสือโคร่งวัดเสือ วัดป่าหลวงตามหาบัว อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี กินแม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหาร ขณะที่บรรยากาศสุดคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติยังแห่ทะลักเที่ยว หลังกรมอุทยานฯ ขนย้ายเสือโคร่งรอบ 2 รวม 10 ตัว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 ก.พ.) ที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากยุโรป และเอเชีย ทั้งชายหญิงเดินทางมาเป็นหมู่คณะกับกรุ๊ปทัวร์เป็นจำนวนมาก เพื่อมาเที่ยวชมเสือโคร่ง พร้อมถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก
จากลักษณะท่าทางของนักท่องเที่ยวทุกคน ต่างมีความรู้สึกเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเดินทางมีท่องเที่ยวที่ประเทศไทย และที่สำคัญ ได้มีโอกาสได้มาถ่ายภาพคู่กับเสือโคร่ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของนักท่องเที่ยวทุกคน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของวัดทราบว่า ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 200-300 คน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยก็มีเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยทางวัดมีพนักงานอยู่กว่า 80 คน ส่วนคนเลี้ยงเสือโคร่งที่เป็นจิตอาสาชาวต่างชาติมีทั้งหมด 15 คน
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเสียค่าใช้จ่ายเข้าไปภายในคนละ 600 บาท ส่วนคนไทยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 300 บาท เงินรายได้ทั้งหมดจะนำไปเป็นค่าอาหารสำหรับเลี้ยงเสือ รวมทั้งเป็นค่าแรงคนงาน เบ็ดเสร็จตกเดือนละประมาณ 5.4 แสนบาท สำหรับเสือโคร่งปัจจุบันมีทั้งหมด 137 ตัว เสือแต่ละตัวจะกินไก่ต้มเป็นอาหารตกตัวละประมาณ 7 กิโลกรัมต่อตัว
ขณะเดียวกัน สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้แก่นักท่องเที่ยวที่สุดคือ เสือที่นำออกมาจากเกาะเสือเพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพคู่ที่บริเวณลานด้านหน้าของเกาะเสือ พบว่า คนเลี้ยงเสือที่เป็นหญิงชาวต่างชาติกำลังนำก๋วยเส้นเล็กน้ำป้อนให้กับเสือกินได้กินอย่างเอร็ดอร่อย คล้ายกับเป็นอาหารว่างของเสือ ซึ่งสอบถามนักท่องเที่ยวพบว่า ไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดเคยเห็นเสือกินก๋วยเตี๋ยวเช่นนี้มาก่อน ต่างจึงประหลาดใจเป็นอย่างมาก
รายงานข่าวว่า สำหรับเสือโคร่งมีจำนวน 147 ตัว ทั้งหมดเป็นของกลางที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฝากให้ทางวัดเลี้ยงเอาไว้ ขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้เริ่มทยอยขนย้ายเสือโคร่งของกลางนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี แล้วจำนวน 10 ตัว โดยเริ่มขนย้ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ม.ค. จำนวน 5 ตัว และเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาอีก จำนวน 5 ตัว ปัจจุบัน เสือโคร่งยังคงเหลืออยู่ทั้งหมด 137 ตัว ซึ่งกรมอุทยานฯ จะทยอยขนย้ายเสือโคร่งของกลางครั้งละ 5 ตัว จนกว่าจะหมด แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเข้ามาขนย้ายอีกเมื่อไหร่
สำหรับการขนย้ายเสือแต่ละตัวเป็นหน้าที่ของ นายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายวิรุฬห์ ศรีสนิท ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายไกรวุฒิ เอี่ยมนนท์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และคณะสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ คณะสัตวแพทย์โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน ม.มหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ดำเนินการขนย้าย มี พ.ต.อ.ศุภิฏพงศ์ ภักดิ์จรุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นายธงชัย สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง รองประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ทำการแทน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน คอยอำนวยความสะดวก
ขณะเดียวกัน มูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เร่งดำเนินการยื่นเอกสารพร้อมแบบแปลนการก่อสร้างสวนสัตว์ขึ้นในพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าจะออกใบอนุญาตให้หรือไม่ โดยหากกรมอุทยานฯ ออกใบอนุญาตให้เมื่อไหร่ ทางมูลนิธิฯ ก็จะเร่งดำเนินการสร้างสวนสัตว์ในทันที ด้วยการทุ่งงบประมาณ จำนวน 120 ล้านบาท
สำหรับปัญหาเกี่ยวกับเสือโคร่งของกลาง มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยให้กรมอุทยานฯ นำไปดูแล ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าเสือของกลางทั้งหมดที่กรมอุทยานฯ จะทำการขนย้ายไปดูแลเองนั้นจะไม่ได้รับการดูแลที่ดีเท่ากับที่ทางมูลนิธิฯ ดูแลอยู่ และจะทำให้แหล่งการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีนั้นหายไป เพราะวัดเสือนั้นมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี