กาญจนบุรี - ชาวอำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี กว่า 400 คน รวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องภาครัฐ กันพื้นที่กว่า 8 หมื่นไร่ ออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมออกเอกสารสิทธิให้แก่ ปชช.แก้ปัญหาที่ดินทำกิน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (16 ก.พ.) นายมานิจ พันธุ์พรหมา กำนัน ต.นาสวน นายสำราญ ผลจันทร์ กำนัน ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยผู้นำชุมชุน รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ ต.นาสวน และ ต.ด่านแม่แฉลบ กว่า 400 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอศรีสวัสดิ์ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับปัญหาที่ดินทำกิน โดยมี นายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ เดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานพื้นที่ ร.9 พัน 1 กรมทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านแม่แฉลบ คอยดูแลความสงบอย่างใกล้ชิด ในระหว่างนั้นแกนนำ และตัวแทนชาวบ้านต่างสับเปลี่ยนกันกล่าวโจมตีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น.จึงแยกย้ายกันกลับ
นายมานิจ พันธุ์พรหมา กำนัน ต.นาสวน เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ให้จังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่ ต.นาสวน และ ต.ด่านแม่แฉลบ เนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งต่อมา ทางจังหวัดกาญจนบุรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหา แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่หวงห้ามทางราชการทหาร พ.ศ.2481 แต่ทว่า กรมอุทยานฯ กลับมาออกประกาศให้พื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์เป็นอุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งตามข้อเท็จจริงพบว่า มีการตราพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนที่ดินราชพัสดุเพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้อพยพจากเขตน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ พ.ศ.2529 เนื้อที่ประมาณ 81,062 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอาศัย และทำกินมาตั้งแต่ต้น
แต่การที่กรมอุทยานฯ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยไม่ได้เพิกถอนที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเสียก่อนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี จะมากล่าวอ้างสิทธิเหนือที่ดินของประชาชนที่อาศัยและทำกินมานานหลายร้อยปีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
ดังนั้น ทางออกที่เหมาะสมที่ควรจะดำเนินการ คือ การรังวัด หรือกันพื้นที่เขื่อนศรีนครินทร์เฉพาะบริเวณที่น้ำท่วมถึงสูงสุดเท่านั้น และดำเนินการสำรวจ และจัดเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินให้แก่ชาวบ้านที่อพยพมาจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และชาวบ้านที่อาศัยอยู่แต่เดิมในพื้นที่นอกเขตน้ำท่วมถึงของเขื่อนศรีนครินทร์เท่านั้นถึงจะถูกต้อง
ส่วน นายสำราญ ผลจันทร์ กำนัน ต.ด่านแม่แฉลบ กล่าวว่า การใช้อำนาจของกรมอุทยานฯ ที่ผ่านมาโดยการจับกุมชาวบ้านที่ทำมาหากิน และสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่ที่มีการจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้อพยพจากเขตน้ำท่วม ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จึงอยากให้นายอำเภอศรีสวัสดิ์ และคณะกรรมการฯ ได้โปรดดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิของชาวบ้าน และขอให้สั่งการ หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดในการละเมิดกฎหมาย และควรเร่งดำเนินการออกประกาศตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อออกเอกสารสิทธิให้แก่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
ด้าน นายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือ และรับฟังถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้ง 2 ตำบล จากนี้จะรีบดำเนินการส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยเร็วที่สุด
