กาญจนบุรี - ประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายป้องกันแก้ไขปัญหาและการจัดระเบียบเรือแพ หรือแพเธคที่ล่องตามแม่น้ำแควน้อยส่งเสียงดังในช่วงเวลากลางคืน รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี เอาจริงสั่งหลังเที่ยงคืนต้องงดใช้เสียงโดยเด็ดขาด หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ละเว้น จ่อฟันแพที่รุกล้ำลำน้ำเป็นรายต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ห้องประชุมแควใหญ่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายป้องกันแก้ไขปัญหาและการจัดระเบียบเรือแพ จังหวัดกาญจนบุรี หลังมีผู้ร้องเรียนไปยังรัฐบาลว่า แพเธคที่ล่องตามแม่น้ำแควน้อยส่งเสียงดังในช่วงเวลากลางคืน
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาพูดผ่านสื่อให้จังหวัดเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยมี พ.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ น.ส.รัฎฐ์ชาพัชร กระจ่างฉาย นายกสมาคมชาวเรือชาวแพ จ.กาญจนบุรี พร้อมผู้ประกอบการชาวแพกว่า 50 คน
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการแพเธค นำโดย ดร.สำเภา ใจผ่องใส แกนนำกลุ่มรักธรรมชาติจังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย เพื่อร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาเสียงดังของแพเธค
สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องการให้ผู้ประกอบการแพงดใช้เสียงโดยเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาจะแก้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น และก็จะเกิดปัญหาในลักษณะเดิมขึ้นอีก ซึ่งสร้างความเดือดร้อน และความเสียหายให้แก่ธุรกิจที่ตั้งอยู่ตลอดสองฝั่งลำน้ำแควน้อย
พร้อมกันนี้ ได้เสนอให้ผู้ประกอบการทำเป็นสถานที่ปิดเพื่อไม่ให้เสียงออกมารบกวน ขณะที่ผลการตรวจวัดมาตรฐานคุณภาพระดับเสียงของกรมควบคุมมลพิษระหว่างปี 2555-2557 พบว่าบริเวณที่มีการประกอบกิจการเรือแพมีความดังของเสียงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535
ขณะที่ทางจังหวัดเสนอให้กำหนดเวลาใช้เสียงระหว่าง 07.00-24.00 น. และกำหนดโซนนิ่งในการเปิด-ปิดเครื่องเสียง ไฟสีแดง หมายถึงห้ามใช้เสียงเด็ดขาด ไฟสีเหลือง หมายถึงใช้เสียงเบาและเตรียมหยุดใช้เสียง ไฟสีเขียว หมายถึงใช้เสียงได้แต่ต้องไม่เกิน 85 เดซิเบล รวมทั้งจัดทำทะเบียนผู้ประกอบการเรือแพ จัดทำบัตรประจำตัว และอบรมดีเจประจำแพ และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงกฎระเบียบในการใช้บริการแพ
ขณะที่ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา โดยการกำหนดลำโพงให้ใช้ดอกเบส 18 นิ้วได้แพละ 4 ดอก ดอก 21 นิ้ว 24 นิ้วได้แพละ 2 ดอก ให้ติดตั้งป้าย และไฟแจ้งเตือนเวลา 23.50 น.ทุกเกาะ
นอกจากนี้ ชาวแพจะใช้วิธีควบคุมดูแลกันเองอีกทางหนึ่ง โดยกำหนดปรับเป็นเงินแพที่กระทำผิด ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ผู้ที่พบเห็นแพที่การกระทำผิดกฎหมายแจ้งได้ที่หมายเลข 191 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปดำเนินการต่อแพนั้นๆ โดยวิธีการจับปรับ และหากกระทำผิดซ้ำจะมีมาตรการในการเสนอให้ผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการให้ผู้ประกอบการรายนั้นๆ ต้องยุติการดำเนินกิจการลงทันที ซึ่งในที่ประชุมพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ทั้งฝ่ายชาวบ้าน และฝ่ายผู้ประกอบการสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายบุญญะพัฒน์ กล่าวสรุปภายหลังจากการประชุมว่า ปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องรีบแก้ไขคือ เรื่องของเสียง ได้กำหนดมาตรการให้ทุกแพจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยจะสามารถใช้เสียงได้ระหว่างเวลา 07.00-24.00 น.เท่านั้น หลังเที่ยงคืนต้องงดใช้เสียงโดยเด็ดขาด หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ไม่ละเว้น
ขณะที่ระดับความดังของเสียงเป็นหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษที่จะเข้ามากำกับควบคุมดูแลให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด สำหรับแพอาหารที่จอดอยู่กับที่ซึ่งพบว่ามีการรุกล้ำลำน้ำจนทำลายทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยว และในส่วนของรีสอร์ตที่เป็นแพลอยน้ำมีลักษณะหรูหรา และสิ่งก่อสร้างบนบกต่อเนื่องกัน และเป็นบ้านพักตากอากาศ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งในแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแม่กลอง โดยเฉพาะเขตอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่ทางกรมป่าไม้ได้เข้าตรวจยึดรวม 21 คดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนจากต่างถิ่นนั้นก็จะมีการวางมาตรการในการจัดระเบียบเป็นลำดับต่อไป