xs
xsm
sm
md
lg

เสนอสั่งนายทุนขุดบ่อลูกรังที่กาญจน์ หยุดกิจการหลังนำขยะมาทิ้งส่งกลิ่นเหม็นจนชาวบ้านเดือดร้อน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - หลายหน่วยงานในกาญจนบุรี ประชุมระดมสมองแก้ปัญหาบ่อขยะส่งกลิ่นเหม็นที่ชาวหนองตากยา อำเภอท่าม่วง รวมตัวประท้วงนายทุนจากราชบุรี ที่ขออนุญาตทำโรงงานขุดบ่อลูกรังกว่า 80 ไร่ แต่กลับนำขยะมาทิ้งจนส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งนานกว่า 5 ปี สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเสนอให้ทาง อบต.หนองตากยา ที่เป็นผู้อนุญาตให้ยกเลิก และสั่งให้บริษัทหยุดกิจการเอาไว้ก่อนจนกว่าจะแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้ ด้านผู้ประกอบการชี้หากภาครัฐสั่งหยุดก็พร้อมปฏิบัติตามทันที

จากกรณีชาวบ้านหมู่ 1, 4, 7, 8, 12 และหมู่ 14 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กว่า 200 คน รวมตัวประท้วง และนำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ขุดตัก ดินลูกรัง หิน ทราย ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ที่มีนายทุนชาวจังหวัดราชบุรี เป็นเจ้าของ แต่พื้นที่ดังกล่าวกลับนำขยะจำนวนมหาศาลมาทิ้งลักษณะฝังกลบ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ โดยชาวบ้านทั้งหมดเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือใน 3 ประเด็น คือ 1.ชาวบ้านต้องการให้เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น 2.ขอให้หยุดการนำขยะมาทิ้งโดยเด็ดขาด 3.ทางบริษัทที่นำขยะมาทิ้งต้องทำการปรับปรุงบูรณะพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับมาดังเดิม ในขณะที่ชาวบ้านรวมตัวกัน ร.ท.ดำรง ปักกาเวสูง ผบ.ชุดควบคุม ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมกำลังได้เดินทางมาดูแลความสงบ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ห้องประชุม อบต.หนองตากยา หมู่ 10 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ท.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เลี้ยงชีพ ผกก.สภ.สำรอง พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธุ์ สว.กก.5.บก.ปทส. นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 นายณรงค์ บุญรักษา ผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 นายบรรพต พุ่มน้ำเย็น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว)

ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายน้อม บุญปองหา รองนายก อบต.หนองตากยา พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองตากยา ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหากลิ่นเหม็นที่บริษัทเอกชนได้รับอนุญาตให้นำขยะไปทิ้งด้วยวิธีการฝังกลบ บริเวณพื้นที่เชิงเขาเนื้อที่ 80 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้ประกอบการคือ นายศักดิ์ชัย ไวคกุล และนายณรงค์ชัย บุญเกลี้ยง พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนหนึ่งเข้าร่วมประชุม

โดย นายจำรัส กังน้อย ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแนะนำตัวทีละคน พร้อมทั้งให้แต่ละหน่วยงานอธิบายถึงหน้าที่ที่รับผิดชอบ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ชี้แจงกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นจากกองขยะ และให้ตัวแทนชาวบ้านได้ชี้แจงกรณีที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยใช้เวลาในการประชุมการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปตรวจสอบบ่อขยะดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ห่างจาก อบต.หนองตากยา ประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องขับรถลัดเลาะไปตามชายป่า และเชิงเขา

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ติดกับเชิงเขา มีเนื้อที่ 2 แปลง มีลำห้วยธรรมชาติคั่นกลางเอาไว้ ซึ่งมองเห็นได้ว่าพื้นที่ทั้ง 2 แปลง มีกองขยะกระจัดกระจายไปทั่ว โดยขยะไม่ได้มีการคัดแยกก่อนนำมาฝังกลบแต่อย่างใด มีคนนำรถแบ็กโฮ จำนวน 1 คัน ฝังกลบขยะอยู่ตามปกติ

นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง เปิดเผยภายหลังว่า วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ร่วมกันเข้ามาตรวจพื้นที่ดังกล่าวตามที่ชาวบ้านร้องเรียน หลังจากตรวจสอบแล้วเสร็จ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานได้ทราบตามลำดับชั้น สำหรับการสำรวจพื้นที่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกรมที่ดิน จากการประชุมทราบจากเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดว่า ได้มอบอำนาจให้ทาง อบต.เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎของอุตสาหกรรมที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น

สำหรับปัญหามลพิษทางกลิ่น เป็นหน้าที่ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การจะพิจารณาให้บริษัทดังกล่าวหยุดกิจการ ทุกหน่วยงานจะต้องมาสรุป และตัดสินใจดำเนินขั้นตอนตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน

ด้าน พ.ท.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กล่าวว่า หากประชาชนไม่เดือดร้อนจริงก็คงไม่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาตรวจสอบ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าทางบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ ประชาชนเองก็ต้องให้โอกาสแก่ทางเจ้าของบริษัทด้วย

“นี่คือขั้นตอนของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่จากการที่ได้ไปตรวจสอบพื้นที่จริง ผมจะได้เสนอให้ทาง อบต.หนองตากยา ที่เป็นผู้อนุญาตให้ยกเลิก และสั่งให้บริษัทหยุดกิจการเอาไว้ก่อนจนกว่าจะแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้ ซึ่งในเรื่องนี้ผมจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นต่อไป”

ด้าน นายน้อม บุญปองหา รองนายก อบต.หนองตากยา กล่าวว่า ตนเห็นด้วยต่อเจ้าหน้าที่ทหารที่เสนอให้ผู้ประกอบการหยุดกิจการในทันที แต่จะให้สั่งการภายในวันนี้คงจะไม่ทัน เพราะต้องรวบรวมเอกสารให้เสร็จเสียก่อน และจะได้ไปคุยนอกรอบกับผู้ประกอบอีกครั้งหนึ่ง โดยจะให้ผู้ประกอบการหยุดดำเนินแก้ไขปัญหาของกลิ่นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ถึง 15 วัน หากผู้ประกอบไม่สามารถทำได้จำเป็นจะต้องไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อไป

พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธุ์ สว.กก.5.บก.ปทส.กล่าวว่า จากการตรวจพื้นที่เบื้องต้น พบว่า ผืนป่าดังกล่าวเป็นผืนป่าต้นน้ำ สำหรับที่ดิน จำนวน 80 ไร่ อยู่ติดกับลำคลองธรรมชาติที่รองรับน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา หากมีขยะ หรือสารพิษไหลลงสู่ลำคลองดังกล่าวก็จะกระทบต่อประชาชนที่ใช้น้ำในการอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน ซึ่งตนจะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วนต่อไป

นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 (กรมป่าไม้) กล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงเร่งสั่งการให้ตน และเจ้าหน้าที่เดินทางมาสำรวจรังวัดที่ดินทั้งหมดว่าอยู่ในพื้นที่ใด โดยการรังวัดที่ดินจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจวัดหาพิกัดโดยรอบพื้นที่ทั้ง 2 แปลง หากพบตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกา 2481 ก็จะต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าที่ดินทั้ง 2 แปลง ออกเอกสารสิทธิใบ น.ส.3.ก มาได้อย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดว่าคงจะแล้วเสร็จก่อนเวลา 08.00 น.จากนั้นก็จะรีบรายงานให้อธิบดีกรมป่าใทราบต่อไป

ส่วน นายชัยยศ เฉียมวิเชียร ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การที่ชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเราไม่ต้องการแค่ให้ทางบริษัทแก้ไขปัญหาเรื่องของกลิ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ชาวบ้านทั้งหมดต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการสั่งการให้ทางผู้ประกอบการหยุดกิจการโดยทันที เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของคนในพื้นที่ โดยน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา ไม่เพียงแต่จะไหลลงลำคลองธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่น้ำยังไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยที่บริเวณ ต.ยางเกาะ อ.ด่านมะขามเตี้ย อีกด้วย และหากผู้ประกอบการยังดำเนินกิจการอยู่เชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้จะต้องได้รับความหายนะอย่างแน่นอน

ด้าน นายศักดิ์ชัย ไวคกุล ผู้ประกอบการ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยหุ้นส่วยยินดีที่จะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของชาวบ้านทุกอย่าง แต่ถ้าหากทางหน่วยงานรัฐพิจารณาสั่งให้หยุดกิจการ พวกตนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม เพราะพวกตนอยู่ใต้กฎหมายอยู่แล้ว





กำลังโหลดความคิดเห็น