พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยา และพัฒนาสังคมฯ มอบถุงยังชีพพระราชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้เสียหายเหยื่อเครนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาถล่ม พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นรายละ 2,000 บาท ด้าน ตร.เผยสอบพยานแล้ว 2 ปาก แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใด ขณะที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจ
วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่าง ต.สำเภาล่มเชื่อม ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ฐานรองรับเครนเคลื่อนทำให้แท่นปูนถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง มีผู้ได้บาดเจ็บ 12 ราย รถยนต์เสียหายอีก 2 คัน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางมีนา รัตนเสนีย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เป็นตัวแทนมอบถุงยังชีพพระราชพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้ประสบเหตุทั้งหมด 4 ราย และนายวิชญพร ไชยรัตนะ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้รายละ 2,000 บาท
นางสมปอง สมสมัย อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ 1 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ในผู้บาดเจ็บ และบ้านได้รับความเสียหาย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้มีตัวแทนผู้รับเหมาเข้ามาเจรจาขอชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด โดยจะมีการซ่อมแซมบ้านให้ และจะดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ ซึ่งตนก็พอใจในส่วนที่บริษัทผู้รับเหมายอมชดใช้ และดูแลค่าเสียหายให้
ด้าน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนคร กล่าวว่า ในเรื่องของกฎหมายขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ใด เนื่องจากยังต้องรอสอบปากคำบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด เบื้องต้น สอบปากคำไปแล้ว 2 ปาก และยังต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อน และยังต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากความประมาทจากบุคคลใดจึงสามารถจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไปถึงจะรวบรวมข้อมูลที่แท้จริง
วันเดียวกัน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงสำรวจวิเคราะห์ในพื้นที่อุบัติภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นโครงการของกรมทางหลวงชนบท รับผิดชอบการก่อสร้าง และใช้งบประมาณ โดยได้มอบพื้นที่ให้บริษัท ประยูรวิศร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง
นายพิศักดิ์ จิตวิระยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยหลังจากดูสภาพความเสียหายของสะพานที่ถล่มลงมาระหว่างการก่อสร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ขอเวลาในการสรุปสาเหตุของสะพานถล่มในครั้งนี้ ซึ่งสามารถตรวจสอบจากร่องรอยที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงชิ้นส่วนที่คงเหลือและชิ้นส่วนที่ถล่มลงมา รวมถึงสภาพเครนที่หักโค่นทั้งหมดสามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และสาเหตุที่แท้จริงของการพังถล่มลงมาเกิดจากสาเหตุใด
“ในส่วนของชิ้นส่วนที่พังนั้นได้ย้ำว่าหลังตรวจสอบแล้วต้องเร่งเคลื่อนย้ายออกไป โดยห้ามนำชิ้นส่วนชุดนี้กลับมาใช้ใหม่ และห้ามซ่อมแซมแล้วนำมาใช้ใหม่โดยเด็ดขาด อีกทั้งในส่วนของสะพานที่ต่อเชื่อมไปแล้ว แต่ไม่ได้พังลงมาจะต้องตรวจสอบด้วยเช่นกันว่ามีความมั่นคงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นในมาตรฐานการทำงานด้านความปลอดภัยของกรมทางหลวงชนบท"
ขณะที่ รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พร้อมนักวิชาการได้ลงมาร่วมตรวจสอบ และขอเวลาในการวิเคราะห์เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงของสะพานถล่มในครั้งนี้ต่อไป