กรมทางหลวงชนบทคาดตรวจสอบสาเหตุเครนยักษ์ถล่มที่อยุธยาใน 7 วัน ก่อนทบทวนมาตรการความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างใหม่ ขณะที่สั่งผู้รับเหมาดูแลผู้บาดเจ็บและบ้านประชาชนที่เสียหายเต็มที่ พร้อมปิดพื้นที่ก่อสร้างชั่วคราว ยันผู้รับเหมาบริษัทใหญ่เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานแถวหน้าของประเทศ
จากเหตุเครนโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ทรุดตัวถล่มเมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั้น นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมถนนหมายเลข 3469 กับทางหลวงหมายเลข 3477 กรณีเครนถล่มนั้นเกิดเหตุเวลาประมาณ 11 โมง ซึ่งเครนดังกล่าวทำหน้าที่ยกบล็อก Segment ซึ่งใน 1 ช่วงคานจะมีบล็อก Segment 13 บล็อก โดยยกไปแล้ว 9 บล็อก แต่เมื่อยกบล็อก Segment ที่ 10 เครนเกิดคว่ำ ซึ่งสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องมีการตรวจสอบหา โดยจะใช้เวลาตรวจสอบ 7 วัน
โดยหลังเกิดเหตุ ทช.ได้มีการสั่งการให้ผู้รับจ้างดูแลรับผิดชอบชดใช้ให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างจำนวน 12 คน และบ้านของประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบ้าน พร้อมกันนี้ได้สั่งปิดพื้นที่ก่อสร้างเป็นการชั่วคราวก่อน นอกจากนี้ ทีมของ ทช., ที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง, ผู้รับจ้าง จะร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อทราบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ทช.จะทบทวนเพื่อปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่ก่อสร้างมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ทช.ได้ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยอยู่แล้ว ส่วนบริษัทผู้รับจ้างเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างสะพานอย่างมากอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ และมีประสบการณ์ในการก่อสร้างสะพานในลักษณะเดียวกันนี้หลายแห่งแล้ว ดังนั้นคงต้องรอสรุปสาเหตุที่เกิดเหตุครั้งนี้ก่อนจึงจะเพิ่มเติมมาตรการควบคุมความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างให้มากขึ้นต่อไป