xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ลงนามประกาศเวนคืนอสังหาฯ 9 ฉบับ-มอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-โคราช” “บางใหญ่-กาญจนบุรี”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“บิ๊กตู่” ลงนามประกาศสำนักนายกฯ 9 ฉบับ เวนคืนอสังหาริมทรัพย์สร้างทางหลวงพิเศษ 2 สาย “บางปะอิน-โคราช” และ “บางใหญ่-กาญจนบุรี” พร้อมขยายทางหลวงแผ่นดิน 3 สาย และสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบทอีก 4 สาย

วันนี้ (29 ธ.ค.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 9 ฉบับ ว่าด้วยการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเป็นการเวนคืน เช่น เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) 2 ฉบับ ขยายทางหลวงแผ่นดิน 3 ฉบับ และ สร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท 4 ฉบับ ประกอบด้วย

“ฉบับแรก เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมาเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอหนองแค อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างทางหลวงพิเศษสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๖ สายบางปะอิน - นครราชสีมา พ.ศ. ๒๕๕๖เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สอง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้าง ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อำเภอพุทธมณฑล อำเภอนครชัยศรี อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอำเภอท่ามะกา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างทางหลวงพิเศษสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข ๘๑ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี พ.ศ. ๒๕๕๖เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบ ทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในท้องที่อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงแผ่นดินสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไป จะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๙๗ สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ (พระประโทน) - บรรจบทางหลวงพิเศษหมายเลข ๓๕ (บ้านปอ) ที่บ้านศรีพิพัฒน์ บ้านหนองบัว บ้านหลักสาม บ้านทุ่งอินทรีย์ และบ้านท้ายวัดใหญ่ พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจ เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่สี่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเลเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๕ ในท้องที่อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงแผ่นดินสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อขยาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๓๐ สายเทพกษัตรี - เชิงทะเล พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่ห้า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท อต. ๒๐๑๔ และทางหลวงชนบท อต. ๕๐๐๓ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่หก ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท สฎ. ๒๐๐๗ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรีโดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีพ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่เจ็ด ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อขยายทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๓๘ กับทางหลวงชนบท ลย. ๔๐๐๙ บริเวณบ้านท่าข้าม นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การขยายทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลกุดป่อง และตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย จากเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่แปด ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๐๑ และทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๑๐ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพาน ข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่ออำนวยความสะดวก และความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค ซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไป จะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจ เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ฉบับที่เก้า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่ได้ประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณ ทางหลวงชนบท พบ. ๑๐๓๙ นั้น

อธิบดีกรมทางหลวงชนบทผู้เป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเห็นว่า การสร้างสะพานข้ามทางรถไฟบริเวณทางหลวงชนบทสายดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภคซึ่งหากการเวนคืนเนิ่นช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับมาตรา ๖๘/๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี โดยมติเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ตามพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลธงชัย อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจาก เจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘”



กำลังโหลดความคิดเห็น