บุรีรัมย์ - พอช.ลงพื้นที่บุรีรัมย์ รุดสอบข้อเท็จจริงกรณีลูกจ้างพร้อมสามีปลอมลายเซ็นยักยอกเบิกเงิน 4 กองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาส ที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งล่าสุดโผล่อีก 1 รวมยอดเงินเกือบ 3 ล้าน ขณะที่เจ้าอาวาสวัดดังวอนนำเงินมาคืนหวั่นกองทุนล่ม
วันนี้ (5 พ.ย. 58) ที่ห้องประชุมพนมรุ้ง ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ นายไกวัล เดือนจำรูญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย น.ส.เฉลิมศรี ดารากุล ผู้จัดการสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และเจ้าหน้าที่ได้ประชุมร่วมกับประธานกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลในเขตจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง หลังมีการตรวจสอบพบว่า น.ส.สุภานัน ศรีพนม หรือต่าย อายุ 26 ปี ลูกจ้างของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ทำหน้าที่ดูแลเรื่องเอกสารและติดต่อประสานงานระหว่างทางกองทุนกับสถาบันฯ และนายพงศธร ศรีพนม สามี ร่วมกันปลอมแปลงลายมือชื่อ เพื่อไปเบิกยักยอกเงินฝากและเงินออมในบัญชีของกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบล 4 แห่งที่จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ มีกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลพระครู อ.เมือง ถูกเบิกถอนไปจำนวน 1,100,500 บาท, กองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลสองห้อง อ.เมือง ถูกเบิกถอนไปจำนวน 674,000 บาท, กองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลบัวทอง อ.เมือง ถูกเบิกถอนไปจำนวน 423,000 บาท และกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลปราสาท อ.บ้านด่าน ถูกเบิกถอนไปจำนวน 206,,000 บาท
ล่าสุดพบมีกองทุนยักยอกเงินเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ กองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลสะแกโพรง อ.เมือง ถูกเบิกถอนไปจำนวน 475,511 บาท รวมเป็นเงินถูกเบิกถอนไปทั้งสิ้นจำนวน 2,879,011 บาท
ทั้งนี้ ประธานกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลทั้ง 5 แห่งที่ถูกเบิกถอนเงินไป ได้นำเอกสารหลักฐานการเบิกถอนจากธนาคารมาแสดงต่อที่ประชุมเพื่อยืนยันว่าเงินกองทุนได้ถูก น.ส.สุภานัน และนายพงศธร ศรีพนม สองสามีภรรยาเบิกถอนเงินออกไปจริง เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ เห็นว่า น.ส.สุภานันเป็นพนักงานของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน โดยอ้างว่าจะนำไปปรับเช็กยอดเงิน และนำไปประกอบทำเรื่องเสนอของบประมาณสนับสนุนจาก พอช. แต่กลับไม่ได้นำไปดำเนินการตามที่กล่าวอ้างจริง
ในที่ประชุมได้แนะนำให้ประธานกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลที่ถูกยักยอกเบิกเงินไป ให้แจ้งความเอาผิดกัต่อ น.ส.สุภานัน และนายพงศธร ศรีพนม สองสามีภรรยาไว้ก่อน ส่วนทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิต่อผู้กระทำผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่ามีใครร่วมเบิกเงินของกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลทั้ง 5 แห่ง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดธนาคารจึงยอมให้บุคคลเหล่านี้เบิกเงินจากธนาคารแทนประธาน และคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลออกไปได้ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ไปด้วย
ด้านพระครูปทุมธรรมานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองบัวทอง ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ประธานกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลบัวทอง กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการตำบลเป็นความต้องการของชุมชน เพื่อดูแลสวัสดิการชุมชนด้านเกิดแก่เจ็บตาย ซึ่งในตำบลบัวทองมีสมาชิกกว่า 200 คน ปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจาก น.ส.สุภานัน ศรีพนม ลูกจ้างของ พอช.มาอ้างว่าหน่วยงานจะสมทบทุนและสวัสดิการที่จะร่วมสมทบด้วย จึงมาขอสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลบัวทองไปเพื่อไปปรับ แต่เมื่อได้บัญชีไปก็ปลอมลายเซ็นประธานและคณะกรรมการกองทุนฯ เบิกเงินจากธนาคารไปทั้งหมด 423,000 บาท ทำให้ขณะนี้กองทุนฯ ไม่มีเงินที่จะดำเนินการต่อไป อาจทำให้กองหยุดชะงักหรือปิดตัวลงก็ไม่ทราบได้ ยืนยันไม่มีการมอบอำนาจให้ทำการแทน จึงอยากวิงวอนไปยังบุคคลที่กระทำดังกล่าวขอให้มารับผิดชอบหรือนำเงินดังกล่าวคืนให้แก่กองทุนฯ ทางกองทุนจะไม่ดำเนินการทางกฎหมาย แต่หากไม่ส่งคืนจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป