xs
xsm
sm
md
lg

ตร.บุรีรัมย์ออกหมายเรียกสองผัวเมียยักยอกเงินกองทุนสวัสดิการแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตำรวจบุรีรัมย์ออกหมายเรียกน.ส.สุภานัน ศรีพนม พร้อมสามีมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์ออกหมายเรียกสองสามีภรรยาปลอมลายมือชื่อยักยอกเงินกองทุนสวัสดิการตำบล 5 แห่งร่วม 3 ล้านบาทแล้ว หากไม่มาจ่อออกหมายจับ ทั้งเตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารและผู้เกี่ยวข้องสอบปากคำเพิ่ม

วันนี้ (6 พ.ย. 58) ความคืบหน้ากรณีประธานกองทุน 5 แห่งที่ จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า น.ส.สุภานัน ศรีพนม หรือต่าย อายุ 26 ปี ลูกจ้างของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และนายพงศธร ศรีพนม สามี ได้ร่วมกันปลอมแปลงลายมือชื่อเจ้าของบัญชีในใบถอนเงินของธนาคาร และปลอมลายมือชื่อในใบมอบฉันทะ ไปหลอกธนาคารเพื่อเบิกเงินของกองทุนสวัสดิการผู้ด้อยโอกาสตำบลพระครู, สองห้อง, บัวทอง, สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ และ ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ทั้ง 5 แห่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 2,879,011 บาท

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกสองสามีภรรยามาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่หากออกหมายเรียกครบ 3 ครั้ง ทั้งสองยังไม่มาตามหมายเรียกจะออกหมายจับตามขั้นตอน พร้อมกันนี้ยังได้ประสานขอเอกสารตัวจริงจากทางธนาคารที่ทั้งสองไปเบิกเงินเพื่อส่งไปตรวจเปรียบเทียบลายมือชื่อผู้เสียหายที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง กรุงเทพมหานคร คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วันจึงจะทราบผลตรวจ

ขณะเดียวกัน ได้ประสานธนาคารในฐานะผู้เสียหายที่ถูกนำลายมือชื่อปลอมไปเบิกเงิน ให้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากข้อหาฉ้อโกงเป็นความผิดต่อส่วนตัว จากเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ปลอมแปลงลายมือชื่ออันเป็นเท็จเท่านั้น”

นอกจากนั้นจะเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคาร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด หากผลการสอบสวนหรือข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นว่ามีส่วนร่วมในกระทำผิดด้วย ก็จะถูกออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า กรณีดังกล่าวได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทุก สภ.ที่ได้รับแจ้งความให้เร่งรัดดำเนินการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่ชุมชน หากข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงชี้ชัดไปถึงบุคคลใดว่าทุจริตหรือยักยอกเงินของกองทุนดังกล่าวจริงก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย ทั้งกำชับให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

กำลังโหลดความคิดเห็น