พิจิตร - เจ้าคณะภาค 4 ประชุมร่วมกับฝ่ายบ้านเมืองดำเนินคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หลังถูกร้องนำเงินวัดเล่นหุ้นจนถูกสั่งพ้นตำแหน่งมานาน 5 เดือนยังไม่ยอมออกจากวัด แถมฟ้องพระผู้ใหญ่ยัน ผอ.สำนักพุทธรวม 9 รายรวด แฉ 6 กลุ่มผลประโยชน์เอี่ยว
พระธรรมรัตนดิลก เจ้าคณะภาค 4 วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ประชุมร่วมกับพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ หรือเจ้าคุณมหาวิรัช เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และนายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร รองผู้ว่าฯ พิจิตร พ.อ.ชัยเดช สุรวดี รอง ผบ.กกล.รส.จทบ.เพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร และผู้ที่เกี่ยวข้องในกิจการงานด้วยพระพุทธศาสนากว่า 30 คน เมื่อสุดสัปดาห์นี้ ที่ห้องประชุมโรงเรียนหลวงพ่อเพชรวิทยา วัดท่าหลวงพระอารามหลวง จ.พิจิตร
หลังคณะสงฆ์มีคำสั่งให้พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร (วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน) ตั้งแต่ 5 เดือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากถูกร้องเรียนว่าเอาเงินวัดไปเล่นหุ้น และอีกหลายข้อหา พร้อมกับแต่งตั้งพระครูวิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ให้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ทั้งมีคำสั่งให้อดีตเจ้าอาวาสทำรายการส่งมอบคืนทรัพย์สินภายในวัด ทั้งเงินจำหน่ายพระเครื่องพระบูชา เงินรายได้จากตู้บริจาค และเงินรายได้อื่นๆ ให้แก่รักษาการเจ้าอาวาส เพื่อจะได้บริหารกิจการงานสงฆ์
แต่ปรากฏว่าพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยและคำตัดสินของคณะสงฆ์ รวมถึงลูกศิษย์กลุ่มแม่ค้าที่ขายของในวัด กลุ่มผู้รับเหมาที่เคยรับงานวัดได้นำมวลชนประมาณ 200 คนมาคัดค้านทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่จะขอเข้าดูหลักฐานทางด้านการเงิน จนทำให้ญาติโยมไม่มากราบไหว้ทำบุญที่วัดเหมือนอย่างในอดีต
อีกทั้งล่าสุดอดีตเจ้าอาวาสได้ยื่นฟ้องศาลเจ้าคณะภาค 4 กับคณะ รวมถึงนายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา รวม 9 คน เป็นคดีแพ่ง
โดยในที่ประชุมได้ให้ข้อมูลว่า กลุ่มผู้สร้างความวุ่นวายทำลายหลวงพ่อเงิน ประกอบด้วย 1. นายทุนโรงหล่อพระ รับทำและจำหน่ายวัตถุมงคลปีละหลายร้อยล้านบาท ผู้รับเหมาก่อสร้างบางคนที่หากินในวัด คนคุมการเงินของวัดบางคนที่เกรงว่าจะถูกรื้อบัญชีแล้วอาจพบว่าเงินมีการทุจริตฉ้อฉล ร้านค้าขายวัตถุมงคล ของกิน ของที่ระลึกที่กลัวว่าเจ้าอาวาสรูปใหม่จะจัดระเบียบ คนเช่าที่ดินของวัดบางรายที่กลัวจะถูกยกเลิกสัญญา และกลุ่มการเมืองท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า พระครูวิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล และเจ้าอาวาสวัดหนองดง ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสมาตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 57 มีสิทธิ อำนาจ หน้าที่ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ จึงให้รักษาการเจ้าอาวาสแจ้งความดำเนินคดีได้ทุกเรื่อง และจากนี้ให้ออกคำสั่งให้ชัดเจน ว่าให้อดีตไวยาวัจกรซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงาน ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินคืนมาให้รักษาการเจ้าอาวาส และให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ หรือให้ปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ก็ตามต้องเป็นไปตามคำสั่ง
หากจัดการงานนอกสั่งก็ให้เอาผิดตาม ม.157 รวมถึงถ้าพระครูวิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ที่รักษาการแทนเจ้าอาวาสมีความประสงค์จะแต่งตั้งไวยาวัจกรขึ้นใหม่ก็สามารถทำได้
ทั้งนี้ พระธรรมรัตนดิลก เจ้าคณะภาค 4 วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ และ นายนพรัตน์ ตั้งกิตติถาวร รองผู้ว่าฯ พิจิตร ได้ขอให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยกันปัดกวาดคนชั่วออกจากวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน โดยขอให้ใช้หลักที่ว่า “ให้ยึดถือความถูกต้องยุติธรรมเป็นกลาง โดยขอให้ยึดวัดเป็นศูนย์กลาง อย่ายึดบุคคลเป็นที่ตั้ง เพราะบุคคลย่อมสูญหายตายจาก แต่วัด คำสอนของพระพุทธเจ้า และคำสอนของหลวงพ่อเงินยังต้องอยู่คู่กับชาวพิจิตรและคนไทยที่เคารพนับถือหลวงพ่อเงินตลอดไป”