ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประชุมมอบนโยบายแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ดินป่าไม้เพื่อปลูกยางพาราให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และภาค 6 พร้อมผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ชี้น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงราย โดนบุกรุกหนัก หวังทวงคืนให้ได้ภายในปีนี้กว่า 1.4 แสนไร่ จากเป้าหมายรวมทั้งประเทศ 6 แสนไร่
วันนี้ (20 พ.ค. 58) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าไม้ ให้แก่แม่ทัพภาคที่ 3 และหน่วยงานขึ้นตรงต่อกองทัพภาคที่ 3, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และภาค 6 พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และท้องถิ่นจังหวัด ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
โดยเฉพาะแนวทางปฏิบัติในการลดพื้นที่ปลูกยางพารา ตามข้อสั่งการของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อมอบนโยบายที่ชัดเจนให้แก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งดำเนินการทวงคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพารา เพื่อให้เกิดความมั่นใจในแนวทางปฏิบัติ ข้อกฎหมาย วิธีการและเป้าหมาย เนื่องจากในการดำเนินการมีผลกระทบต่อหลายฝ่าย ทั้งผู้มีอิทธิพล นายทุน และราษฎร
ทั้งนี้ ในปี 2558 นี้ตั้งเป้าหมายทวงคืนพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราทั่วประเทศให้ได้ 600,000 ไร่ โดยในส่วนของภาคเหนือตั้งเป้าหมาย 142,000 ไร่ ซึ่งพื้นที่ที่พบว่ามีการบุกรุกอย่างหนัก ได้แก่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงราย เป็นต้น
สำหรับการดำเนินการนั้น จะเริ่มดำเนินการตามนโยบายนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 58 เป็นต้นไปพร้อมกันทั่วประเทศ ด้วยการนำมาตรการทั้งทางกฎหมายและการพูดคุยเจรจามาใช้ควบคู่กันไป เน้นการดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อกลุ่มนายทุนที่ทำการบุกรุกเป็นลำดับแรก ส่วนราษฎรที่ยากไร้จะพยายามใช้แนวทางการพูดคุยทำความเข้าใจก่อน ทั้งนี้ พื้นที่ที่สามารถทวงคืนกลับมาได้จะมีการพิจารณาจัดสรรเป็นพื้นที่ทำกินให้แก่ราษฎรด้วย แต่หากเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำหรืออุทยานก็จะทำการฟื้นฟูสภาพให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมมากที่สุด
นอกจากนี้ พลเอก ดาว์พงษ์ระบุว่า การดำเนินการตามนโยบายนี้ยังจะสอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำด้วย เนื่องจากปัจจุบันพบว่าปริมาณผลผลิตเกินความต้องการของตลาด โดยที่ผลผลิตกว่าครึ่งมาจากพื้นที่ปลูกยางพาราที่บุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งจากการประเมินพบว่าทั่วทั้งประเทศมีพื้นที่ที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราสะสมรวมแล้วกว่า 5 ล้านไร่ จากการบุกรุกเฉลี่ยปีละประมาณ 270,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถทวงคืนได้เพียงปีละประมาณ 40,000 ไร่เท่านั้น โดยหากปล่อยให้เป็นปัญหาต่อไปพื้นที่ป่าของประเทศจะสูญสิ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลปัจจุบันสามารถทวงคืนพื้นที่ป่าในส่วนนี้มาได้แล้วประมาณ 50,000 ไร่ และตั้งเป้าหมายว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้รวมทั้งตลอดปี 2559 จะสามารถทวงคืนได้รวมแล้ว 1.5 ล้านไร่ ซึ่งยอมรับว่าการจะดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งที่ยากและจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องด้วย แต่จะต้องเร่งดำเนินการให้ประสบความสำเร็จให้ได้ เพราะการบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นต้นเหตุของปัญหาสำคัญอื่นๆ อีกหลายปัญหา ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง และหมอกควันในภาคเหนือด้วย
โดยคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากนอกจากหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทุกจังหวัดและท้องถิ่นแล้ว ยังมีการสนับสนุนจากทางกองทัพ และกระทรวงยุติธรรมอีกด้วย