xs
xsm
sm
md
lg

“ดาว์พงษ์” ลุยโคราช สั่งปราบแก๊งนายทุนฮุบป่าปลูกยางอีสาน 5 แสนไร่ ลั่นปูพรมเข้ายึดคืนทั่วประเทศ 1 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมามอบนโยบายทวงคืนผืนป่า สั่งปรามปรามนายทุนบุกรุกป่าปลูกยางพารากว่า 5 แสนไร่  ที่กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 20 พ.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.อ.ดาว์พงษ์” รมว.ทรัพยากรฯ ลุยโคราชทวงคืนผืนป่า สั่งปราบปรามกลุ่มนายทุนและนอมินีรุกป่าปลูกยางพาราภาคอีสานกว่า 5 แสนไร่ ตั้งเป้าปีนี้เอาคืน 9 หมื่นไร่ พร้อมแก้ปัญหายางล้นตลาด ระบุคนจนให้อยู่ต่อและการดำเนินการช่วยแตกต่างกันไป เผยปูพรมเข้ายึดคืนพร้อมกันทั่วประเทศ 1 มิ.ย.นี้ ลั่นให้ถอยไปหมดเวลาหากินในพื้นที่ไม่ถูกกฎหมายแล้ว ส่วนนายทุนรีสอร์ต บ้านพักหรูรุกป่า เดินหน้าเชือดสอบที่มาเอกสารสิทธิชอบหรือไม่

วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้องประชุม 4 อาคารวิบูลย์ศักดิ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารระดับของกระทรวงทรัพยากรฯ เดินทางมามอบนโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าไม้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าถูกบุกรุกในพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดยมี พล.ต.วิชัย แชจอหอ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยผู้แทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3), ผู้แทน ผบช.ภ.4, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 20 จังหวัด และผู้บังคับการหน่วยทหาร, หัวหน้าส่วนข้าราชการ สังกัดกระทรวงทรัพย์ฯ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมประชุมรวมกว่า 200 คน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐเป็นปัญหาที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน อันเนื่องมาจากบุคคล กลุ่มคน และมีขบวนการที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายบ้านเมือง ทำให้พื้นที่ป่าอนุรักษ์และพื้นที่ป่าที่เป็นต้นน้ำลำธารถูกบุกรุกทำลายลงเป็นจำนวนมาก

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ครั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนแผนที่ทางกระทรวงฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนร่วมกันว่าจะต้องเอาพื้นที่ที่ถูกบุกรุกไปกลับคืนมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบเป็นนโยบายและแนวทางให้เรามาดำเนินการ สิ่งที่ผ่านมาตลอดคือนโยบายของรัฐบาลส่วนใหญ่จะดีและเหมือนกันหมด แต่ต่างกันตรงการขับเคลื่อน ฉะนั้นนายกฯ ย้ำว่าต้องขับเคลื่อนและต้องลงไปดูพื้นที่จริง

วันนี้จึงต้องมาทำให้เกิดขึ้น โดยความเร่งด่วนที่จะดำเนินการต้องสอดคล้องนโยบายรัฐบาลเรื่องการลดปริมาณยางพาราในตลาดที่จะดำเนินการต่อ คือ การปราบปราบกลุ่มบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกสวนยางพารา ซึ่งมีอยู่จำนวนมากทั้งนายทุน ชาวบ้านทั่วไปหรือชาวบ้านที่เป็นนอมินีนายทุน ซึ่งจะให้แนวทางที่ชัดเจนแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ โดยเฉพาะกำลังหลักที่ช่วยในงานนี้คือกำลังทหารของกองทัพบก ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สนับสนุนภารกิจนี้เต็มที่

สำหรับความเร่งด่วนแรก คือ จะดำเนินการต่อพื้นที่ที่นายทุนบุกรุกและไม่มีเอกสารสิทธิจะต้องเข้าไปดำเนินการทันที และเฉพาะพื้นที่สวนยางพาราที่ถูกบุกรุกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมเนื้อที่กว่า 400,000-500,000 ไร่ ไม่นับการบุกรุกแบบอื่น แต่ปี 2558 จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2558 ในพื้นที่ภาคอีสานจะเอากลับคืนมาให้ได้ 90,000 ไร่ แต่ยังไม่รวมถึงพื้นที่ของราษฎรที่อยู่ทำกินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2541 ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน จะยังไม่เข้าไปยุ่งกับชาวบ้าน เพราะได้รับการผ่อนผัน เพียงแต่อย่าขยายเพิ่ม

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา คือมีการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง และเป็นระบบ มีแผนงานชัดเจน โดยพื้นที่ที่ถูกบุกรุกเราเอกซเรย์ไว้หมดแล้ว พิกัดไหนพื้นที่ประมาณเท่าไหร่ ขั้นต้นดูจากแผนที่ทางอากาศก่อน ซึ่งแผนงานทุกอย่างวางไว้หมดแล้วว่าจะเข้าที่ไหน เมื่อไหร่ วันไหน อย่างไร ลักษณะคล้ายกับปูพรมในการเข้าพื้นที่พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 มิ.ย. 2558

ความจริงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ร่วมกับทหารและกระทรวงยุติธรรมได้ทำมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้จะมุ่งไปที่สวนยางพาราของนายทุนบุกรุกป่าที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดินก่อน ส่วนคนจนที่บุกรุกได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจ โดยให้รับสภาพกันไว้ก่อนว่าใครบ้างที่ไม่มีเอกสารสิทธิแล้วค่อยหาทางแก้ปัญหาให้ราษฎรเหล่านั้น เพราะนายกรัฐมนตรีกำชับว่าคนจนต้องดูแลและต้องเห็นใจเขา ฉะนั้นเราจะใช้กฎหมายอย่างเดียวกับคนจนก็ไม่ได้ เราต้องหาทางออกให้เขาด้วย

“ในเมื่อพื้นที่การบุกรุกมากเราต้องทำงานมาก เราก็ต้องเร่งด่วนเอาที่มันสามารถเอากลับมาได้เป็นกอบเป็นกำก่อน ถ้าขืนปล่อยไว้นานจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก และที่เราทำเรื่องยางพาราก่อน เพราะราคายางในตลาดประเทศไทยยังโอเวอร์ซัปพลาย ผลิตออกมามากเหลือเกินไม่รู้ว่าตัวเลขกี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นน้ำยางที่ออกจากสวนยางบุกรุกป่า ซึ่งทั่วประเทศมีการบุกรุกป่าในการทำเฉพาะสวนยางกว่า4 ล้านไร่” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานมาโดยตลอด แต่ว่าพอลงพื้นที่ก็เจอตอ เจออิทธิพลท้องถิ่น เจออิทธิพลระดับชาติ ก็ทำงานไม่ถนัดและต้องรักษาตัวเอง แต่ตอนนี้นโยบายชัดเจนแล้ว และเรามีกองทัพ มีกระทรวงมหาดไทย มาช่วยเราทำให้ทำงานง่ายขึ้น มั่นใจขึ้น รู้สึกปลอดภัยที่จะเข้าไปทำงาน ตนกำชับเจ้าหน้าที่ในการทำงาน คือ ทุกครั้งที่จะเข้าพื้นที่จะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และไปคุยกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, อบต. ผู้นำท้องถิ่นด้วย ไม่ใช่เข้าไปโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วไปไล่ชาวบ้านค่อยกลับมาเช็กทีหลังอย่างนั้นไม่เอา ต้องเช็กให้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเข้าไป

โดยเฉพาะสิ่งที่ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนว่า ต้องไม่เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์ และฝากเลยว่าอย่าไปหลงเชื่อในการเรียกเงินเรียกทอง ไม่มี ทำไม่ได้ เรื่องนี้ตนกลัวมาก เพราะมีเกือบทุกที่ที่ไปตั้งโต๊ะแอบอ้าง แล้วชาวบ้านก็ถูกหลอก สำหรับคนจนยังไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เรายังไม่ไล่ออกไปจากพื้นที่ไหน แต่จะเข้าไปดูก่อน แต่ว่านายทุนต้องโดนก่อนแน่ๆ ฉะนั้นท่านใดที่รู้ตัวอยู่ว่าบุกรุกพื้นที่ป่า โดยไปซื้อที่ดินมือเปล่าจากชาวบ้านแล้วมาทำการปลูกยางพาราและจะมาบอกว่าปลูกมา 5-10-15 ปีแล้วมันคนละเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมามันผิดหมด แต่เราไม่มีกำลังพอและนโยบายไม่ชัดเจนมันจึงสะสมมาถึงทุกวันนี้

ฉะนั้น เมื่อมีกำลังคนมากมายก็น่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น และตนจะต้องมีการประเมินผลงานอธิบดีทุกกรม ทั้งกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ ต้องประเมินผลงานทุกห้วงเวลา จากนี้ไปต้องเดินทางทำงานตลอดจนกว่าจะถึงเดือน ธ.ค. 2558

“มันหมดเวลาแล้วที่จะมาหากินบนพื้นที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ถูกกฎหมาย และมีผลกระทบสิ่งแวดล้อม หมดเวลาหาเงินแล้ว หมดเวลาของท่านแล้ว ถอยไปซะเถอะ เพราะมีทั้งฝนแล้ง น้ำท่วมในที่เดียวกัน รวมทั้งพื้นที่ที่ไปทำรีสอร์ตด้วย ทั้งหมดอยู่ในแผน แต่ความเร่งด่วนเราก็ทำ” พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่บุกรุกป่านำไปทำรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศทั้งหลายนั้น ตนคิดว่าบางคนมีเอกสารสิทธิที่ดิน แต่ไม่รู้ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่ชอบ ก็ดำเนินการอีกแบบ ฉะนั้นการแก้ปัญหาต้องดำเนินการในรูปแบบอื่นที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม เขาได้เอกสารสิทธิมา หรือซื้อมาด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ เขาไม่รู้หรือเปล่าก็ต้องมาดูกัน

ส่วนสำหรับพวกไม่มีเอกสารสิทธิที่ดินนั้นดำเนินการง่าย ต่อให้เป็นรีสอร์ตหรือโรงแรมร้อยดาว ถ้าไม่มีเอกสารสิทธิก็ง่าย แต่ปัญหาที่มีอยู่ตอนนี้คือเขามีเอกสารสิทธิ และต้องมาพิสูจน์ก่อนว่าเอกสารเขาได้มาอย่างไร








กำลังโหลดความคิดเห็น