ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ความคืบหน้าล่าสุดคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เบื้องต้น มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนอีก 3 คน ประกอบด้วย โกโต้ง โกเล้ง และภรรยาคนที่ 2 ของโกโต้ง เจ้าหน้าที่เร่งสอบปากคำให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง
วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว พ.ต.ท.ชาญ อู่ทอง สารวัตรอำนวยการ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมาสอบสวนที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งใน 71 ผู้ต้องหา ที่ถูกออกหมายจับคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เบื้องต้น ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ชาญ ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน คือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง นางทัศนีย์ สุวรรณรัตน์ ภรรยาคนที่ 2 ของโกโต้ง และนายอนุสรณ์ สุขเกษม หรือโกเล้ง ทางพนักงานสอบสวนยังคงเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง ตามอำนาจที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ และให้ได้รายละเอียดมากที่สุด ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในเครือข่ายค้ามนุษย์เพื่อให้คดีรัดกุมมากที่สุด โดยเฉพาะโกโต้ง ซึ่งขณะนี้มีหมายจับรวมกันถึง 9 หมาย ทั้งคดีค้ามนุษย์ และเรื่องการบุกรุกที่ดินที่ จ.สตูล
โดย พ.ต.อ.จีรวัฒน์ พยุงธรรม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สตูล เปิดเผยว่า การออกหมายจับโกโต้งอีก 8 หมายจับ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษโกโต้งกับพวกรวม 5 คน ซึ่งเข้าไปบุกรุกพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งอยู่ ม.7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล โดยได้มีการกล่าวโทษ 8 คดี และในวันนี้ได้มาแจ้งข้อหาให้ต่อ โกโต้ง ได้รับทราบ แต่ยังคงให้การปฏิเสธ
ซึ่งคดีนี้ได้มีการดำเนินการต่อผู้ต้องหาไปแล้วบางส่วน และบางส่วนก็มามอบตัวแล้ว สำหรับคดีการบุกรุกที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะนั้น ส่วนใหญ่เป็นการสร้างรีสอร์ต และที่พัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากที่ดินที่ถูกบุกรุกบางส่วนยังมีปัญหาในข้อพิพาท
ด้าน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงลงพื้นที่เดินหน้ายุทธการปิดปลายทางตัดทอดเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ โดยในวันนี้ได้ลงพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พบปะกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และประชาชนกว่า 1,000 คน เพื่อชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์โรฮีนจา และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งเคยใช้เป็นพื้นที่ปลายทางที่มีการตั้งแคมป์กักกันชาวโรฮีนจา และต้องการให้ชาวปาดังเบซาร์ช่วยกันกู้ภาพลักษณ์
รวมทั้งเข้าให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่ต้องเป็นพยานในชั้นศาล เพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์ และนำตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนในกรณีที่มีชาวบ้านบางส่วนอาจจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งเป็นผู้ส่งเสบียง หรือเฝ้าทาง ขอให้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะได้กันไว้เป็นพยาน แต่หากถูกออกหมายจับ หรือให้ผู้อื่นพาเข้ามอบตัวจะไม่ได้รับการกันไว้เป็นพยาน และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย