มหาสารคาม - จนท.มหาสารคาม สนธิกำลังตรวจค้นฟาร์มหมูใน อ.กุดรัง ป้องกันการค้ามนุษย์ หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบฟาร์มหมูบุกรุกที่ป่าสงนกว่า 20 ไร่
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (19 พ.ค.) พ.ต.อ.พันกฤษณ์ วิชญชีวินทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกุดรัง พ.ต.ท.ไมตรี โปร่งจิตร สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรกุดรัง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่จัดหางาน จ.มหาสารคาม พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.มหาสารคาม สำนักงานสาธารณสุข อ.กุดรัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดมหาสารคาม เข้าตรวจค้นฟาร์มเลี้ยงสุกรเรืองศิริ เลขที่ 92 หมู่ 5 บ้านโคกลี่ ต.กุดรัง อ.กุดรัง มีนางเกษร พิมสอน เป็นเจ้าของ
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบการว่าจ้างแรงงานต่างด้าวว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจสอบเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินเบื้องต้น หลังทราบว่า มีการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติกว่า 20 ไร่
นางนัทธ์หทัย หารทวี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ จัดหางานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ได้รับการประสานงานจากฝ่ายปกครองโดยมาร่วมตรวจสอบใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว แรงงานทุกคนจะต้องมีใบอนุญาตยืนยันว่า ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับนายจ้างคนใด สถานประกอบการไหน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบว่าจะมีการกระทำที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วย
โดยการตรวจสอบครั้งนี้พบมีการขึ้นทะเบียนจ้างแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 44 คน ตรวจพบมีแรงงานอยู่ในพื้นที่ จำนวน 18 ราย ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด แรงงานต่างด้าวที่เหลือยังไม่เดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา
แต่เนื่องจากนโยบายรัฐบาลอยู่ระหว่างการผ่อนผันจนถึง 30 มิ.ย.58 จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการเรื่องแรงงานให้ถูกต้องหากรู้ว่ายังมีส่วนที่ผิดกฎหมายอยู่ ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง ส่วนเรื่องการตรวจสอบค้ามนุษย์ยังไม่พบการกระทำความผิดตามกฎหมาย
ทางด้าน นายประสิทธิ์ ด่านกุลประเสริฐ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ในส่วนของ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยต้นน้ำลำชี เป็นหน่วยจัดการต้นน้ำ อยู่ในเขตพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดรัง มีเนื้อที่ประมาณ 89,000 ไร่ เข้ามาร่วมตรวจสอบเรื่องการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ ภายใต้การทำงานของคณะทำงานระดับจังหวัด และระดับอำเภอ โดยแปลงที่ตรวจสอบเป็นแปลงที่สร้างเป็นฟาร์มสุกร ได้รับการร้องเรียนว่าบุกรุกที่ป่าสงวน
ซึ่งแปลงที่บุกรุกนี้ ทางกรมป่าไม้มีแผนที่จะกันพื้นที่กลับคืนมาให้อยู่ในการดูแลของหน่วยจัดการต้นน้ำลำชี ดำเนินการปลูกป่าต้นน้ำ แต่จากการตรวจสอบพิกัดแล้วพบว่า ที่ดินบางส่วนของฟาร์มสุกร มีพื้นที่ทับซ้อนกับป่าลุ่มน้ำชี จำนวน 23 ไร่ ที่จะใช้เป็นแปลงปลูกป่าของต้นแม่น้ำชี
โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเข้าใช้พื้นที่ของฟาร์มสุกร ว่า มีเนื้อที่ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่าไหร่ และส่วนใดที่ต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป