มหาสารคาม - เด็กสาววัย 16 ปีถูกเชือกไนลอนบาดคอขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้านยามวิกาล เชื่อเป็นแผนคนร้ายขึงเชือกหวังชิงทรัพย์ เผยเส้นทางบ้านหินลาด-กุดแคน ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม สุดเปลี่ยว ชาวบ้านต้องเฝ้าจับตาหวั่นเกิดเหตุซ้ำ
จากกรณีมีข่าวสาววัยรุ่นอายุ 16 ปีถูกเชือกไนลอนบาดคอ แล้วโพสต์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองอีดำ ต.หนองโน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเด็กสาวคนดังกล่าวอาศัยอยู่ เพื่อพบกับนายประมวล หนองสี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านหนองอีดำ
นายประมวลเปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 มี.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่นางสาวเอ (นามสมมติ) ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากไปเที่ยวงานบุญมหาชาติหรืองานบุญผะเหวด ที่บ้านหินลาด ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยใช้เส้นทางบ้านหินลาด-กุดแคน บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากทางเข้าหมู่บ้านกุดแคนประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้ความเร็วของรถประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกเสียวที่คอ มีอาการแสบ จึงได้จอดรถดูกระจกก็พบว่าที่คอมีร่องรอยถูกบาด แต่โชคดีที่รถไม่ล้ม จึงได้รีบขี่รถกลับมาที่บ้านและบอกพ่อ
ต่อมามีการแชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย และมีประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้สอบถามข้อเท็จจริง โดยให้นางสาวเอพาไปชี้ที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพบว่ามีเชือกไนลอนเส้นเล็กๆ ผูกติดอยู่กับต้นพุทราทั้งสองฝั่ง แต่เมื่อผู้ใหญ่บ้านพาผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่เกิดเหตุกลับไม่พบเชือกไนลอนแต่อย่างใด เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมาลักตัดออกไปแล้ว
ทั้งนี้ ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้งตำบลหนองโนได้ร่วมประชุมกันเพื่อเตรียมหามาตรการป้องกัน เนื่องจากว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้ผู้นำแต่ละหมู่บ้านประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา คอยสังเกตเวลาสัญจรผ่านไปมาว่ามีการขึงเส้นเอ็นหรือลวดหรือไม่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก
“เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ทั้งทรัพย์สินมีค่า และรถจักรยานยนต์ แต่หากผู้เสียหายเป็นผู้หญิงก็อาจมีอันตรายมากขึ้นอีก ซึ่งได้แนะนำให้นางสาวเอไปแจ้งความที่ สภ.เมืองไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป”
เวลา 13.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่ สภ.เมือง ญาติได้พานางสาวเอเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สำเริง นวลแก้ว พนักงานสอบสวน ก่อนที่จะเข้าพบตำรวจชุดสืบสวนเพื่อให้ข้อมูล
ด้าน พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวว่าเคยมีเหตุลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่หรือไม่ และอยากฝากเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวให้ระมัดระวัง ไม่ควรขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางคืนเพียงลำพัง เนื่องจากเป็นเส้นทางเปลี่ยว ไม่ค่อยมียวดยานพาหนะสัญจร ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใช้ช่วงกลางวัน กลางคืนจึงเปลี่ยวมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
