ผบก.กาฬสินธุ์ชี้ตัดไม้วัดบ้านเสียว เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว

กาฬสินธุ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้คดีตัดไม้พะยูงวัดบ้านเสียว อำเภอยางตลาด มีเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว ระบุเป็นเครือข่ายเดียวกับแก๊งมหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ตัดไม้ตามออเดอร์ส่งออกประเทศลาว

ความคืบหน้าคดีแก๊งตัดไม้พะยูงนำชายฉกรรจ์ 6-7 คนบังอาจทำการปิดล้อมวัดป่าสันติวาสอินทาราม บ้านเสียว หมู่ 5 ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยใช้อาวุธปืนบังคับพระในวัดก่อนทำการตัดไม้พะยูงดำ อายุกว่าหนึ่งร้อยปีหลบหนีไปอย่างลอยนวล

ล่าสุด วันนี้ (20 เม.ย.) มีรายงานว่าที่วัดป่าสันติวาสอินทาราม (วัดป่าบ้านเสียว) หมู่ที่ 5 ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระอธิการวิญญู คัมภีรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดป่าสันติวาสอินทาราม และนายทองพูน ภูกิ่งแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาดเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามคำสั่งของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ซึ่งคำให้การสอดคล้องไปในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด โดย พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ยางตลาด ทำการคลี่คลายคดี

พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตำรวจพื้นที่และตำรวจชุดสืบสวน ได้บันทึกรายงานที่ตรงกันเกี่ยวกับเครือข่ายตัดไม้พะยูงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันถึง 3 ครั้ง อยู่ในเขต อ.ยางตลาดทั้ง 3 ครั้ง และในครั้งนี้เป็นการกระทำที่เย้ยกฎหมาย ล่าสุดมีหลักฐานที่โยงไปถึงเครือข่ายตัดไม้พะยูงในกลุ่ม จ.มหาสารคาม ที่มีการจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งผลการสืบสวนได้มีการซัดทอดเชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายตัดไม้พะยูง ใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นเครือข่ายเดียวกัน และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในกรณีนี้

ในการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้แบ่งทีมทำงานออกเป็น 3 ชุด โดย 1. ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อขอทราบว่าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังมีพื้นที่ใดป่ามีไม้พะยูงอยู่ 2. ประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด รวมถึงชุดสืบสวนภาค 4 เพื่อทำการจับกุม และ 3. แบ่งกำลังหาข่าวและทำการดูแลพยานก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี และทราบว่าในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังมีผู้นำบางหมู่บ้านเป็นตัวชี้เป้าและดูต้นทางให้กับเครือข่ายนี้ ยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อทำการจับกุมอย่างเร่งด่วนแล้ว