xs
xsm
sm
md
lg

สยอง 2 ศพรับสงกรานต์กำแพงเพชร ทั้งเก๋ง-จยย.ชนท้ายรถบรรทุกกลางดึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กำแพงเพชร - แค่เริ่ม 7 วันอันตรายสงกรานต์กำแพงเพชรสังเวยแล้ว 2 ศพ รายแรกเป็น นศ.หนุ่มบึ่ง จยย.ชนท้ายสิบล้อดับคาที่ อีกรายหนุ่มคลองขลุงพาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน ก่อนกลับบอกพ่อ-แม่หลังสงกรานต์จะบวชแทนคุณ แล้วควบเก๋งออกบ้านกลางดึก ชนท้ายสิบล้อดับ เพื่อนอีก 3 รายเจ็บ

วันนี้ (10 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กำแพงเพชรว่า เกิดอุบัติเหตุช่วงรณรงค์ 7 วันอันตรายสงกรานต์ที่เริ่มตั้งแต่วานนี้ (9 เม.ย.) มีผู้เสียชีวิต 2 ศพแล้ว โดยรายแรกเป็นอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนกำแพงเพชร-พิจิตร กม.8 หมู่ 9 ต.เทพนคร อ.เมือง เมื่อ ร.ต.ท.อดุลย์ รัตนวรกัณท์ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง ไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ นายชานนท์ กุนะ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.13 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ระดับ ปวช.2 แผนกช่างไฟฟ้ากำลัง สมาชิกชมรมรถอาร์เอ็มซี ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก

เพื่อนผู้ตายระบุว่า ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากทำธุระที่ จ.พิษณุโลก ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ ทะเบียน 1 กค 7070 กำแพงเพชร นำหน้ามา เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่มืด ผู้ตายได้พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเต็มแรงเนื่องจากมองไม่เห็นไฟท้ายรถสิบล้อ จนผู้ตายล้มลงกับพื้นถนนเสียชีวิต

จากการตรวจดูที่เกิดเหตุ คาดว่ารถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวน่าจะบรรทุกข้าวเปลือกมาเพราะมีข้าวเปลือกตกเรี่ยราดอยู่บนถนน หลังเกิดเหตุแล้วได้ขับหลบหนี

รายที่ 2 เกิดขึ้นในเวลาเกือบเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดย ร.ท.ต.อรรษนัย มาบจันดา พนักงานสอบสวน สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ BMW ชนท้ายรถบรรทุกหกล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนพหลโยธินขาล่อง กม. 413-414 หมู่ 1 ต.คลองขลุง จึงไปสอบสวน พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลคลองขลุง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร ประจำจุดคลองขลุง

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ BMW สีแดง ทะเบียน ฉล 839 กรุงเทพมหานคร สภาพรถพังยับเยิน หลังคาฉีกขาด อัดติดกับท้ายรถบรรทุกหกล้อ ทะเบียน 70-2482 นครสวรรค์ ภายในรถยนต์ที่นั่งข้างคนขับข้างซ้ายพบศพ นายเกรียงศักดิ์ กลมกล่อม หรือเอ็กซ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 บ้านวังหิน ต.คลองขลุง สภาพกะโหลกศีรษะด้านซ้ายแตก มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งตามร่างกาย

ส่วนผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลังมาด้วยได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คือ นายอาณัฐ ตรีเย็น อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202/445 หมู่ที่ 1 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และนายวัชรพล สนั่นทุ่ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/4 หมู่ที่ 1 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปาการ ได้รับบาดเจ็บคางแตก มีบาดแผลถลอก ฟกช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรนำส่งโรงพยาบาลคลองขลุงให้แพทย์ทำการรักษาอาการบาดเจ็บ เบื้องต้นทั้งสองมีอาการปลอดภัย แต่ยังให้ปากคำไม่ได้

ขณะที่คนขับรถไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังออกติดตามค้นหาจนไปพบตัวกำลังเดินอยู่ข้างถนน ห่างจากที่เกิดเหตุ 300 เมตร มีอาการแน่นหน้าอก เจ็บขา และปวดหลัง จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลคลองขลุง รักษาอาการให้ดีขึ้นก่อน จากนั้นจะได้ทำการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

นายอนุศักดิ์ แซ่ลี้ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 498 หมู่ที่ 4 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง คนขับรถบรรทุกหกล้อยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นอ้างว่าขับรถบรรทุกเซรามิกจากจังหวัดลำปางไปส่งที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างทางขับรถมาทางเลนขวา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถขับมาชนท้ายรถอย่างแรง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ต่อมานายพยน กลมกล่อม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 บ้านวังหิน ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง พ่อนายเกรียงศักดิ์ กลมกล่อม ผู้เสียชีวิตมาดูที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นศพก็โผเข้ากอดศพลูกชายด้วยความโศกเศร้าเสียใจ พร้อมกับเปิดเผยว่า ลูกชายไปทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ กลับมาเที่ยวบ้านกับเพื่อนอีก 3 คนได้ประมาณ 20 วันแล้ว จนวันนี้จะเดินทางกลับไปทำงานที่จังหวัดสุมทรปราการ ได้ดื่มสุรากันก่อนเดินทางกลับ พร้อมบอกกับพ่อและแม่ว่าหลังเทศกาลสงกรานต์จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้จับชายผ้าเหลือง

จากนั้นทั้งหมดก็พากันขึ้นรถคันดังกล่าวเดินทางกลับ โดยนายเกรียงศักดิ์นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ จนกระทั่งมีพลเมืองดีโทรศัพท์ไปหาว่ารถที่ลูกชายโดยสารมาด้วยประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร ประจำจุดคลองขลุง นำศพส่งโรงพยาบาลคลองขลุงเพื่อให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป พร้อมกับคุมตัวคนขับรถบรรทุกหกล้อไปทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเกิดจากเหตุเพราะดื่มสุรา หรือขับขี่รถโดยประมาท ต้องทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง










กำลังโหลดความคิดเห็น