xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอย “คลังอาวุธ” แก๊งแดงซุก “วัดชื่อดัง” ก่อนส่งไปฆ่า!!

เผยแพร่:   โดย: **


รายงานอาชญากรรม

ร้อนระอุจนปรอทแทบแตก สำหรับอุณหภูมิการเมืองไทย ยิ่งการที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกมาลงนามประกาศใช้กฎอัยการศึก หวังปรามเหล่าบรรดาม็อบทั้ง 2 ฝั่งให้นิ่งอยู่กับที่ ก็ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งถูกปลุกเร้าเร็วขึ้นเท่านั้น

หนึ่งในปัจจัยที่ “บิ๊กตู่” ตัดสินใจเดินหมากเสี่ยงนี้ คงมีเรื่องของความ “สูญเสีย” เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน โดยก่อนหน้าที่จะมีการประกาศใช้กฎหมายนี้ ได้เกิดเหตุการณ์ยิง “เอ็ม79” สลับกับใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าใส่กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อค่ำคืนของวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บนับสิบ

รวมถึงการเดินหน้าเข้าทลาย “คลังอาวุธ” ได้ที่ จ.สมุทรสาคร และลพบุรี พร้อมผู้ต้องหา 2 คน เมื่อช่วงเช้าและสายของวันพุธที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่สืบไปสาวมาพบว่าหนึ่งในนั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงอิสระ ที่มีการตั้งเป็นกลุ่ม “จรยุทธ” เคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ทางการเมือง

ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ณ นาทีนี้ยังมีกลุ่มขบวนการ หรือจะเรียกว่ากองกำลังติดอาวุธ เตรียมตัวเข้าก่อเหตุรายวันแน่นอน!?!

ก่อนหน้านี้ ก็มีข่าวลือหึ่งบนสังคมออนไลน์ว่า พบ “คลังอาวุธ” ซุกซ่อนอยู่ในตึกชินวัตร 3 ถ.วิภาวดี หลังเจ้าหน้าที่ทหารซึมตัวเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุไฟลุกไหม้บนชั้น 12 ของตึก เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องผงะกับภาพอาวุธสงครามจำนวนมาก วางกองเรียงกันอยู่แทน...แต่สุดท้ายทางผู้บริหารของตึกดังกล่าวได้ออกมาปฏิเสธข่าวชิ้นนี้แล้วว่าไม่เป็นความจริง...

เมื่อลองตรวจสอบแล้ว แม้เป็นข่าวที่ไม่ค่อยมีมูลความจริง แต่กลับพบนัยบางอย่าง ที่มีความต่อเนื่องมาจากคดี “คำสั่ง ว.5” ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มต้นจากปม “ต่างหูเพชร” มูลค่าหลายล้านบาทของ “จอย” รินลณี ศรีเพ็ญ ดาราสาวชื่อดัง หล่นหาย จนบานปลายเป็นการค้นพบ “อาวุธปืน” จำนวน 2 กระบอก ทั้งปืนอาก้า และปืนเซกาเซ่ ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถเก๋งคันหนึ่ง ที่จอดอยู่ภายในรีสอร์ตที่ชื่อ “จันทรา” จ.นครนายก

เรื่องทุกอย่างดูเหมือนจะไม่มีอะไร ถ้าอยู่ดีๆ ไม่มีผู้มีอำนาจระดับบิ๊กจากซีกรัฐบาลถึง 2 คน พยายามวิ่งล็อบบี้ให้ปิดข่าวยึดอาวุธครั้งนี้ พร้อมส่งนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามากดดันการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ อย่างผิดสังเกต

สุดท้ายเมื่อมีการตรวจสอบถึงเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มีชื่อเสียงเรียงนามว่า “เสี่ยแหมะ” สิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย คนสนิท “ประชา ประสพดี” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลองหลอดนั้นเอง

ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวลือหึ่งว่า รีสอร์ตแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บพัก “คลังอาวุธ” ก่อนลำเลียงเข้าพื้นที่ชั้นใน เพื่อใช้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในขณะนี้ แต่บังเอิญวันดังกล่าว ที่กลุ่ม “ชายชุดดำ” กำลังขนของเข้าเก็บอยู่นั้น ดันมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เข้ามาตรวจค้นหา “ต่างหูเพชร” พอดี จนแผนแตกกระเจิงอย่างไม่ได้นัดหมาย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า รีสอร์ตแห่งนี้มักจะถูกใช้เป็นที่ประชุมของบรรดาแกนนำกลุ่มเสื้อแดง นำโดย “ไพร่ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ และ “อำมาตย์เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่มีการนัดแนะมาเปิดห้องวอร์มรูม เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ทางการเมืองอยู่เป็นประจำ...

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการข่าวได้จับตาเข้มความเคลื่อนไหวการลำเลียงอาวุธเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าจะมีการกระจายของไปเก็บในพื้นที่ กทม. ชั้นใน อย่างในย่านคลองเตย และตามปริมณฑล ก่อนจะส่งต่อให้กลุ่มกองกำลังที่จะเข้ามารับงานต่อ ซึ่งสอดรับกับเหตุรุนแรงหลายครั้ง รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงหัวรุนแรง อย่างกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.), กลุ่มเรดการ์ดเรดิโอของ “โกตี๋” วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือกลุ่มเคลื่อนที่เร็วจากย่านธนบุรี และลพบุรี

ฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ก่อนเกิดเหตุรุนแรง ทางเสื้อแดงโลกไซเบอร์บางคน อย่าง “ลุงยิ้มตาสว่าง” จะหยั่งรู้ก่อน...

นอกจากนี้ ยังพบว่า การลำเลียง “อาวุธสงคราม” ส่วนใหญ่จะถูกนำเข้าไปเก็บพักไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งภายใต้ “ชายผ้าเหลือง” อันเลื่องชื่อ ที่มีความใกล้ชิดกับ “ทักษิณ” เนื่องจากวัดแห่งนี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องเดินธุดงค์บนกลีบกุหลาบ ได้มีการป้องกันอย่างเข้มงวด และคนในพื้นที่ไม่กล้าเข้าไปแตะต้องแน่นอน ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อปี 53 ที่กลุ่มเสื้อแดงกำลังขย่มกรุงอยู่นั้น สถานที่แห่งนี้เคยตกเป็นข่าวให้ที่พักพิงแก่ชาวต่างด้าว เพื่อเข้าร่วมชุมนุมมาแล้วเช่นกัน!?!

สุดท้ายเห็นท่าทีอันดุดันของ “บิ๊กตู่” เที่ยวนี้ ก็ได้แต่ตั้งความหวังว่า เจ้าตัวจะเล่นบท “แอ็กชัน” ทลายแหล่งที่เก็บ “คลังอาวุธ” อย่างที่ทำอยู่นี้ต่อไป โดยไม่ต้องสนว่าจะเป็นของคนกลุ่มไหน หรือใช้ศาสนาบังหน้าหรือไม่

แต่อย่าปล่อยให้กลุ่ม “ปีศาจ” ในชุด “คราบมนุษย์” เหล่านี้ลอยนวล...


กำลังโหลดความคิดเห็น