ศูนย์ข่าวศรีราชา - กระทรวงวิทย์ฯนำอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ มาใช้ในการวิจัยและพัฒนา เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐาน หวังจัดการด้านทรัพยากรและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ หน่วยงานอื่นสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ง่ายขึ้น
วันนี้(20 มี.ค.) ที่อาคารศูนย์ภูมิสารสนเทศสิรินธร ภายในอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานการรมการบริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(GISTDA ) และศาสตราจารย์ลี้ เซียวฮง อธิการบดีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมแถลงข่าวการใช้นวัตกรรมอวกาศ ในการสนับสนุน R&D ภายในประเทศ
นายยงยุทธ กล่าวว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศและเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ถือเป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่ที่หลายประเทศให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทย เช่น สิงคโปร์ ที่ได้ประกาศส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีอวกาศ
สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศและเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้เชื่อมโยงกัน และเร่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสาธารณะ โดยต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการภัยพิบัติ ร่วมกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน IT และด้านนาโนเทคโนโลยี หรือการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมเกษตร โดยใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนของอาเซียนสู่การเป็นผู้นำในเวทีโลกได้
นายยงยุทธ กล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างสังคมการเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน วิสาหกิจ และภาคการศึกษา เพื่อลดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น รวมถึงการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสร้างความเชื่อมโยงโดยใช้นวัตกรรม และการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ซึ่งเป็นการยกระดับคลัสเตอร์อุตสาหกรรม และขยายเครือข่ายการผลิตสู่ต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ด้านดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวง ผลักดันให้ประเทศไทยมีการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา หวังให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขัน และมีความก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ นอกจากนั้นจะต้องมีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาวิจัย พร้อมพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ จะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน
รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานการรมการบริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ( GISTDA ) กล่าวว่า อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ถือเป็นอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีหลากหลายและทิศทางการพัฒนาประเทศ พร้อมนำนวัตกรรมที่เกิดจากงานวิจัย มาเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงใน 4 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการค้าและการลงทุนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือ AEC
ด้านศาสตราจารย์ ลี้ เซียวฮง อธิการบดีมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งศูนย์สิรินธรระหว่างประเทศด้านภูมิสานสนเทศ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ สำหรับการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถือเป็นบทบาทสำคัญของการเริ่มต้นอย่างมีทิศทาง ของการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนบุคลากร วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ และการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนร่วมกันต่อไป
