ชาวบ้านวอน ผอ.เขื่อนลำปาว เมตตาเปิดทางขุดลอกหนองน้ำแก้ภัยแล้ง

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านตำบลนาเชือก อ.ยางตลาด วอนผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เมตตาเปิดทางขุดลอกหนองน้ำแก้ภัยแล้งกุดดุมเกวียน ซึ่งผ่านประชาคมและประกวดราคาแล้วแต่กลับไม่อนุญาต อ้างเป็นที่ดินของชลประทาน ทั้งที่เดิมเป็นหนองน้ำสาธารณประโยชน์



วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม เชิญนายปิยะปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว นายยุทธนา ไชยปัญญา รองปลัด อบต.นาเชือก นายบุญเพ็ง ภูเงินขำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 พร้อมด้วยชาวบ้าน ต.นาเชือก อ.ยางตลาด 10 คนเข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างผู้อำนวยการเขื่อนลำปาว ตัวแทนชาวบ้าน และ อบต.นาเชือก

ซึ่งผู้อำนวยการฯ เขื่อนลำปาวไม่ยอมให้ อบต.นาเชือกขุดลอกหนองน้ำกุดดุมเกวียน ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณประโยชน์ โดย อบต.ทำเรื่องของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จนได้รับการอนุมัติงบประมาณ 4,974,000 บาท และประกวดราคาไปแล้ว

โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ อบต.นาเชือกได้ให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ แต่ผู้อำนวยการเขื่อนลำปาวได้เข้าขัดขวางจนทำให้ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานได้ โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ของเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและยังมีความอุดมสมบูรณ์ ในขณะที่ชาวบ้านระบุว่าเป็นหนองน้ำเดิมและเสื่อมโทรม ต้องการให้มีการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยมีตัวแทนท้องถิ่นอำเภอยางตลาด ตัวแทนสำนักงานธนารักษ์ และ พ.อ.สมบัติ จินดาศรี เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าเป็นสักขีพยาน

นายสุพจน์ ธรรมะรักษา ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หนองน้ำกุดดุมเกวียนเดิมเป็นหนองน้ำสาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านในตำบลได้ใช้กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่ผ่านมาก็เคยมีการขุดลอก จนเมื่อเกิดความตื้นเขินชาวบ้านจึงได้ทำโครงการนี้ผ่านประชาคม ส่งต่อ อบต.นาเชือก ซึ่งได้งบประมาณจากส่วนกลาง ใช้เวลาเกือบ 10 ปี และเมื่อได้รับมาก็ทราบว่ามีการประกวดราคาหาผู้รับจ้างเข้าทำงานแล้ว ชาวบ้านก็หวังที่จะได้รับประโยชน์จากพื้นที่แห่งนี้

“ที่ผ่านมาถึงแม้ ต.นาเชือกจะอยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว แต่ก็ไม่เคยได้รับประโยชน์ เพราะตั้งอยู่ที่สูง คลองส่งน้ำเข้าไม่ถึง อีกทั้งบริเวณนี้ก็มีชาวบ้านที่เดือดร้อนช่วงภัยแล้งมากกว่า 600 ครัวเรือน ทั้งหมดมีความหวังว่าจะได้ใช้น้ำในบริเวณ แต่กลับถูกผู้อำนวยการเขื่อนลำปาวเข้าขัดขวาง โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์”

นายสุพจน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาข้อพิพาททุกอย่างได้ดำเนินการแก้ไขจากทาง อบต.นาเชือก และนายอำเภอยางตลาด รวมไปถึงสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เพราะนายปิยะปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการเขื่อนลำปาว ได้ให้ อบต.นาเชือกไปขอใช้ที่ดิน ซึ่งที่แรกบอกว่าเป็นของธนารักษ์ ที่ผ่านมาก็มีหนังสืออนุญาต แต่หลังจากนั้นก็บอกว่าไม่อนุญาต โดยอ้างว่าต้องขออนุญาตพื้นที่เขื่อนลำปาวก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้หารือไปทางอำเภอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนท้องถิ่นจังหวัด และนายอำเภอยางตลาดก็มีความเห็นว่าให้ดำเนินการขุดลอก

“ไม่เข้าใจว่าทำไม ผอ.เขื่อนถึงต้องขัดขวางการพัฒนาพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นหนองน้ำสาธารณะเก่าแก่แต่บรรพบุรุษ จึงวอนขอความเมตตาจากผู้อำนวยการเขื่อนลำปาวคนนี้ด้วย”

ด้านนายปิยะปัญญากล่าวยืนยันว่า อย่างไรก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของเขื่อนลำปาว ถึงแม้จะเป็นที่ราชพัสดุ แต่ก็อยู่ในความครอบครองของชลประทาน แม้ธนารักษ์จะอนุญาตแล้วก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ และการที่ไม่ให้ใช้ก็เพื่อดูแลพื้นที่ป่าเท่านั้น ซึ่งปัญหานี้ตนได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีจากความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วด้วย

ทั้งนี้ บรรยากาศการพูดคุยยังคงโต้แย้งกันไปมา โดย ผอ.เขื่อนลำปาวยืนยันไม่อนุญาตให้เข้าพัฒนาพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่ในการครอบครองของเขื่อนลำปาว ที่สวนทางกับความต้องการของรัฐบาลที่ต้องการให้ชาวบ้านได้รับการแก้ไขปัญหา สุดท้ายแนวทางการแก้ไขปัญหาจึงมีการแนะนำให้ อบต.นาเชือกทำหนังสืออีกหนึ่งฉบับขออนุญาตไปที่กรมชลประทานเพื่อทำการพัฒนาแหล่งน้ำ กับอีกหนึ่งแนวทางคือให้ไปพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่อื่นต่อไป

ด้านนายยุทธนา ไชยปัญญา รองปลัด อบต.นาเชือก กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงกับปัญหาการพัฒนาพื้นที่ เพราะการของบประมาณในครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 10 ปี ซึ่ง อบต.นาเชือกต้องการที่จะนำงบมาแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนในตำบลนาเชือกที่จะได้รับประโยชน์กว่า 600 ครัวเรือน อีกทั้งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นภายหลังที่ได้รับงบประมาณและทำการประกวดราคาไปแล้ว ก็คงจะต้องหารือกับชาวบ้านว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาภัยแล้ง

ด้านนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมจะสรุปปัญหานี้ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ ซึ่งการทำงานนั้นไม่ว่าจะเป็นส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขื่อนลำปาว ทางอำเภอ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญคือ พิจารณาให้มีหลักธรรมาภิบาล หรือหลักสุจริตในการทำหน้าที่ ซึ่งผลประโยชน์ทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นแก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล