ราชบุรี - ปทส.ตรวจสอบ 2 รีสอร์ต อ.สวนผึ้ง หลังกั้นน้ำจนชาวบ้านไม่มีใช้ พบ กบร.มีมติเพิกถอน น.ส.3 ก. “เวเนโต้” 30 ไร่ ป่านนี้ยังไม่มีใครลงนาม ส่วน “ภูผาผึ้ง” เนื้อที่ 100 ไร่มีแค่ใบ ภบท.5 ทหารเดินหน้าแจ้งจับ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (27 ม.ค.) นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) พ.อ.เกรียงไกร แข็งแรง ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 กองพันพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ ร่วมกันตรวจสอบรีสอร์ตใน อ.สวนผึ้ง ที่สร้างฝายปิดทางน้ำ ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ด้านล่างเดือดร้อน ไม่มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร รวมทั้งเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง
โดย พ.อ.เกรียงไกรได้นำภาพถ่ายทางอากาศที่ตั้งรีสอร์ตมาแสดง ซึ่งรีสอร์ตเวเนโต้สวนผึ้ง อ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ประมาณ 30 ไร่เศษ อีก 15 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งยังไม่ได้ทำสัญญาเช่า ซึ่งในปี 2552 หน่วยทหารได้ตรวจพบการบุกรุก จึงนำเสนอไปยังคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัด ซึ่งมีมติในปี 2555 ให้เพิกถอน น.ส.3 ก. แต่จนถึง
ปัจจุบันยังไม่มีอธิบดีกรมที่ดินคนใดลงนามเพิกถอน
รีสอร์ตเวเนโต้สวนผึ้ง จึงยังดำเนินกิจการอยู่ โดยยังมีปัญหา 2 ประการ ได้แก่ พื้นที่นับตั้งแต่สวนผึ้งรีสอร์ต ไล่มาตามห้วยบ่อเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน มีการขุดบ่อน้ำ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเวเนโต้สวนผึ้ง ทำฝายกักน้ำหรือไม่ และ 2.เวเนโต้สวนผึ้ง ยังไม่ยอมการเข้าสู่กระบวนการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์
“แต่ที่มีข้อพิพาทมากกว่านั้น คือ มีการแบ่งล็อกลักษณะเหมือนตลาดน้ำ ทำให้มีประชาชนเข้าไปซื้อล็อกจำหน่ายสินค้า”
ขณะที่ภูผาผึ้งรีสอร์ต มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ แต่มีเพียงใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท. 5) ไม่มีเอกสารสิทธิถือครอง ตรวจสอบพบมีการสร้างฝายในลำห้วยบ่อ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารกรมพัฒนาที่ 1 ที่ดูแลพื้นที่ราชพัสดุ แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น
ด้าน พ.ต.อ.มนตรี กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบพิกัดที่ดินโดย ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก หรือจีพีเอส เพื่อดูพื้นที่บุกรุกที่ชัดเจนประกอบการพิจารณาว่าจะรื้อถอน หรือยังคงไว้ หรือจะเปลี่ยนแปลงต่อเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวบ้าน ไม่ใช่ต่อรีสอร์ตเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้การใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งระบบ จะมาอ้างว่ารู้จักคนโน้นคนนี้ไม่ได้ ไม่มีอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น
“ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า ต่อไปนี้ไม่มีคำว่าอิทธิพลแล้ว เราจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นพร้อมตรวจยึดตามกฎหมาย”
