xs
xsm
sm
md
lg

ป่าไม้ราชบุรีดำเนินคดีรีสอร์ตหรูในสวนผึ้งฐานรุกป่าสร้างฝายกั้นลำห้วยเพิ่มอีก 1 แห่ง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราชบุรี - ผู้ว่าฯ ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และ ปทส.สนธิกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ตหรูของผู้มีอิทธิพลในอำเภอสวนผึ้งอีก พร้อมดำเนินคดีรีสอร์ตหรูอีก 1 แห่ง ฐานรุกป่าสร้างฝายกั้นลำห้วย ขณะที่อยู่ระหว่างนำจีพีเอสจับพิกัดพื้นที่อย่างละเอียดว่ามีการบุกรุกหรือไม่อีก 1 แห่ง


เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ส่วนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผบก.ปทส.) พ.อ.เกรียงไกร แข็งแรง ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 กองพันพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ นายจรัส นีรนาทไพบูลย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร

ได้ร่วมประชุมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ตในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง สร้างฝายปิดกั้นทางน้ำ โดยได้เข้าตรวจสอบอูหลงรีสอร์ต หมู่ที่ 13 บ้านผาปกค้างคาว ต.สวนผึ้ง และเดอะรีสอร์ต หมู่ที่ 8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง

พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าได้เข้าตรวจสอบอูหลงรีสอร์ต และช่วงบ่ายที่เดอะรีสอร์ต โดยทั้ง 2 แห่งทราบว่าเป็นของผู้ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในพื้นที่ เบื้องต้นได้ไปดูแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏความผิด เจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจสอบพิกัดในพื้นที่อย่างละเอียด หากพบมีความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งเดอะรีสอร์ต ซึ่งได้ดูแล้วมีพื้นที่ปิดกั้นลำห้วยอยู่ด้านหลังบางส่วนบริเวณหลังรีสอร์ต

“ส่วนนี้มีความผิดชัดเจนแน่นอนต้องดำเนินคดี หากมีการรุกล้ำเกินกว่าได้ทำสัญญาเช่าต่อกรมธนารักษ์ไว้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายหมด โดยการสนธิกำลังตรวจสอบครั้งนี้จุดประสงค์การมาคือ ต้องการล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นจุดประสงค์หลักในการตรวจสอบรีสอร์ตในอำเภอสวนผึ้ง"

นายจรัส นีรนาทไพบูลย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์มีหน้าที่ดูแลราชพัสดุทั่วประเทศ คำว่า ที่ราชพัสดุ กับราชพัสดุต่างกัน เช่น ถ้าที่ อบต.ถ้ามีสิ่งก่อสร้าง ซึ่งเป็นของราชพัสดุได้ขึ้นทะเบียนไว้

ส่วนที่สองอย่างพื้นที่ทหาร ทางราชพัสดุก็จะมาร์กจุดไว้ดูแลโดยราชพัสดุ หรือบางแห่งไปเจอโรงเรียนร้างเกิดยุบไป โดยที่ที่เดิมเป็นที่ราชพัสดุไม่ว่าจะเป็นของโรงเรียน หรือจะเป็นอนามัยมาขอใช้พื้นที่เป็นพื้นที่ของรัฐ โดยที่ราชพัสดุ คือ พื้นที่ของรัฐ

ดังนั้น อนามัยมาขอใช้หลังจากที่โรงเรียนถูกยุบไปแล้ว ใครก็ได้มาตั้งตรงนี้อยู่ที่ว่ามาใช้ประโยชน์โดยส่วนราชการต้องเข้าใจก่อนว่าที่ราชพัสดุคือ ที่ของรัฐที่จะให้หน่วยงานราชการได้ใช้ประโยชน์ บางแห่งมีมากอาจมีชาวบ้านมาเช่าทำเป็นตลาดเยอะมากมาย ซึ่งอยู่ในกระบวนการตามกฎหมาย

ส่วนของป่าไม้ที่เกี่ยวข้องทางกฤษฎีกาได้ตีความที่ราชพัสดุว่าราชพัสดุ หรือธนารักษ์มีกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ แต่ในตัวกฤษฎีกาตีความว่าถ้าพื้นที่ในราชพัสดุทั้งหมด หน่วยงานของรัฐที่เข้าไปใช้พื้นที่ใช้ไม่เต็มพื้นที่ ส่วนที่ไม่ใช้นั้นยังเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ข้อ 1.ราชพัสดุที่ทหารใช้ประโยชน์ หากใช้ประโยชน์ไม่มีปัญหา ส่วนข้อ 2.นอกจากนั้น จะมีเรื่องธนารักษ์จังหวัดให้ในส่วนธนารักษ์ให้เอกชนมาเช่ารีสอร์ต ข้อ 3.ส่วนที่มาทำคือราษฎรที่มาไม่อยู่ในส่วนที่ทหารใช้ ถ้าไม่อยู่ในส่วนที่ธนารักษ์อนุญาต จะถือเป็นพื้นที่ป่าถือว่าเป็นการบุกรุกป่าชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ทางคณะได้เข้าตรวจสอบทั้ง 2 รีสอร์ตพบว่า “อูหลงรีสอร์ต” มีพื้นที่รวมจำนวน 43 ไร่ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำจีพีเอสจับพิกัดพื้นที่อย่างละเอียดว่ามีการบุกรุกหรือไม่

ส่วน “เดอะรีสอร์ต” มีพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้จีพีเอสจับวัดพิกัด ปรากฏว่า ได้มีการขยายบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มไปอีกประมาณ 18 ไร่ และยังมีการสร้างฝายกั้นลำห้วยไว้ด้านหลังอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อนึ่ง ตั้งแต่ต้นเตือนมกราคม 2558 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบรีสอร์ตหรูของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรีมาแล้วทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย

แห่งที่ 1 สวนผึ้งรีสอร์ต พบบุกรุกป่าด้านท้ายรีสอร์ต มีการทำฝายปิดทางน้ำ

แห่งที่ 2 รีสอร์ตเวเนโต้สวนผึ้ง มี น.ส.3 จำนวน 30 ไร่ ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ และยังไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ ประมาณ 65 ไร่ มีการทำฝายกักน้ำลำห้วยบ่อ

แห่งที่ 3 ภูผาผึ้งรีสอร์ต มีพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ แต่มีเพียงใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) ไม่มีเอกสารสิทธิถือครอง สร้างฝายในลำห้วยบ่อ เจ้าหน้าที่ทหารกรมพัฒนาที่ 1 ที่ดูแลพื้นที่ราชพัสดุ แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

แห่งที่ 4 อูหลงรีสอร์ต มีพื้นที่รวมจำนวน 43 ไร่อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำจีพีเอสจับพิกัดพื้นที่อย่างละเอียดว่ามีการบุกรุกหรือไม่

แห่งที่ 5 เดอะรีสอร์ต มีพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้จีพีเอสจับวัดพิกัดปรากฏว่าได้มีการขยายบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มไปอีกประมาณ 18 ไร่ และยังมีการสร้างฝายกั้นลำห้วยไว้ด้านหลังอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น