พะเยา/ลำปาง - สรุปเจ็บ-ตาย 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2558 เมืองกว๊านพะเยามีคนสังเวยชีวิตเพิ่ม 2 เท่าตัว ทำผู้ว่าฯ สั่งวางแผนรับมือสงกรานต์เข้ม ขณะที่เมืองรถม้ายอดตายลดลงเกือบครึ่ง
วันนี้ (6 ม.ค.) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งสรุปผลการปฏิบัติงานช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 57 ถึง 5 มกราคม 58 ที่ห้องศูนย์บัญชาการ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพะเยา
โดยพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 56 ครั้ง เพิ่มขึ้น 6 ครั้ง คิดเป็น 12% บาดเจ็บ 53 คน ลดลง 1 คน คิดเป็น 1.85% และเสียชีวิต 6 ราย เพิ่มขึ้น 4 ราย คิดเป็น 200%
ส่วนการเรียกตรวจและดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. จำนวน 15,000 คัน ถูกดำเนินคดี 1,971 ราย เป็นชาย 1,430 ราย หญิง 541 ราย โดยไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด 614 ราย รองลงมาคือ ไม่มีใบขับขี่มากสุด 613 ราย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 316 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนบางกลุ่มยังไม่มีจิตสำนึกระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่สวมหมวกกันน็อก ซึ่งจะต้องกระตุ้นเตือนให้ตระหนักในเรื่องความปลอดภัยของตนเองและต่อผู้อื่น ลงไปถึงชุมชน หมู่บ้านอย่างเข้มข้น รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมาย ตามมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ยังพบว่าปีนี้ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และเป็นคนในพื้นที่จังหวัดพะเยากว่า 90% จึงฝากข้อคิดไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่าควรนำข้อมูลสาเหตุการเสียชีวิตของคนสูงวัยในพื้นที่มาวิเคราะห์ จากนั้นให้หาทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
“จากยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา ขอให้ทุกหน่วยวางแผนเพื่อลดยอดผู้เสียชีวิตให้ได้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้”
วันเดียวกัน นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานรับฟังการสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ช่วง 7 วัน อันตราย ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 57 ถึง 5 ม.ค. 58 พร้อมทำการปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จ.ลำปาง อย่างเป็นทางการ
ผลการดำเนินงานพบว่าเกิดอุบัติเหตุ 67 ครั้ง เพิ่มขึ้น 1 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 76 คน เพิ่มขึ้น 14 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 5 ราย ลดลง 4 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557 ลดลงคิดเป็นร้อยละ 44 อยู่ในอันดับที่ 23 ของประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้การทำงานในปีนี้จะเป็นที่น่าพอใจ แต่ให้ทุกส่วนปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น และขอให้สิถิติทั้งการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตลดลงให้ต่ำกว่าอันดับที่ 20 ของประเทศให้ได้ โดยได้เน้นย้ำเรื่องปัญหาที่พบในปีนี้นำไปแก้ไข เพื่อป้องกันเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึง เช่น การบังคับใช้กฎหมายจราจรให้เข้มงวดมากขึ้น ทุกพื้นที่ต้องมีชุดเคลื่อนที่เร็วประจำ เพื่อความรวดเร็วในการอำนวยความสะดวกหรือช่วยเหลือ และขอให้มีการขยายการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มขึ้น และรณรงค์เรื่องการสวมหมวกนิรภัยให้เป็นนิสัยเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้ผู้เดินทางต้องพกบัตรประชาชนหรือใบขับขี่ติดตัวทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะได้ติดต่อญาติหรือประสานงานได้อย่างรวดเร็ว