เข้า 5 ใน 7 วันอันตราย ยอดตายจากอุบัติเหตุพุ่ง 260 ศพ เจ็บกว่า 2,500 คน เผย “ตรัง-พัทลุง-นราธิวาส-สิงห์บุรี-นครพนม” ยังรอดไร้ตาย ขณะที่ “เชียงใหม่” ท็อปแชมป์เจ็บตายสูงสุดเช่นเดิม ห่วงช่วงเดินทางกลับ จับตาเฝ้าระวังขับรถเร็วผิดกฎหมาย บริหารจัดการจราจรช่วงคอขวด
วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 ว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค.2558 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2558 นั้น ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และภาคีเครือข่าย พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 342 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 33 ราย ผู้บาดเจ็บ 379 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 31.58 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 23.39 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 74.93 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 66.96 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 39.77 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.72 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 29.53 ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 50.48
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,261 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,766 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 629,535 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 89,257 ราย โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 25,494 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 25,399 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 16 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิจิตร 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 18 คน
ส่วนสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 2557-3 ม.ค.2558 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,446 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 260 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,542 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 5 จังหวัด ได้แก่ ตรัง พัทลุง นราธิวาส สิงห์บุรี และนครพนม จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 109 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 14 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 106 คน
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า วันที่ 4 ม.ค.เป็นวันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับจากภูมิลำเนา และท่องเที่ยว ขอให้จังหวัดปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน และอำนวยความสะดวกให้การจราจรมีความคล่องตัว ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจบนเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่จังหวัดใหญ่ และเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในจุดตรวจเคลื่อนที่ดูแลเข้มข้นเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะทางแยก ทางร่วม จุดตัดทางรถไฟ ทางแคบ กวดขันผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย ทั้งดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่ และพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครอำนวยการจราจร โดยเปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ และปรับใช้สัญญาณไฟให้สอดคล้องต่อสภาพการจราจร พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยงเมืองเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด
นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พบว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูง มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่เป็นเส้นทางผ่านสู่ภูมิภาคต่างๆ จึงขอกำชับให้จังหวัดดังกล่าวเพิ่มความเข้มข้นในการกวดขันผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร โดยเฉพาะการขับรถเร็ว เน้นเส้นทางตรงบนถนนสายหลักที่มีระยะทางยาวเพื่อควบคุมการใช้ความเร็ว ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่จอดพักรถเป็นระยะ โดยสามารถใช้บริการจุดพักรถ จุดบริการของภาครัฐ ภาคเอกชนที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายต่างๆ เพื่อคลายความอ่อนล้า และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. กล่าวว่า วันนี้เส้นทางสายสำคัญจากภูมิภาคต่างๆ ที่มุ่งสู่กรุงเทพมหานคร จะมีปริมาณรถมาก และหนาแน่น ขอให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการจราจร โดยเฉพาะเส้นทางที่เป็นคอขวด คอสะพาน ทางแคบ โดยจัดเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจรตั้งกรวย วางแบริเออร์ เพื่อจัดช่องทางจราจรให้ผู้ขับขี่ใช้เส้นทางได้อย่างสะดวก และปลอดภัย นอกจากนี้ การเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ การเดินทางท่องเที่ยวและการขับรถติดต่อกันหลายวันในช่วงวันหยุดยาวอาจทำให้ผู้ขับขี่มีอาการอ่อนล้า ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน จึงขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน หากมีอาการง่วงนอนควรผลัดเปลี่ยนให้ผู้อื่นขับรถแทน หรือจอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัย พร้อมวางแผนการเดินทาง และตรวจสอบเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด เร็ว เมา ง่วง โทร.ไม่ขับอย่างเด็ดขาด มีน้ำใจ และมารยาทต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นไปด้วยความปลอดภัย
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า ในทุกปีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน 1 ใน 3 มักเกิดจากการขับเร็วเกินกำหนด และเสียชีวิตจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ต้องบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2551 ได้ระบุว่า หากรถวิ่งในความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีความผิดตามกฎหมาย ม.67 ต้องโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ได้กำหนดความเร็วรถไว้ดังนี้ 1.รถยนต์นั่งในเขต กทม. เขตเมือง เขตเทศบาล ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. นอกเขตไม่เกิน 90 กม./ชม. 2.รถกระบะน้ำหนักรวมบรรทุกเกิน 1,200 กก. ในเขต กทม. เขตเมือง เขตเทศบาลความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. นอกเขตไม่เกิน 80 กม./ชม. หากมีป้ายกำหนดความเร็วอยู่ข้างทางให้ปฏิบัติตามป้ายที่กำหนด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยง ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่