xs
xsm
sm
md
lg

สถิติอุบัติเหตุวันที่ 4 ตายรวม 227 เจ็บรวม 2,163 เตรียมรับมือเดินทางกลับ กทม.เน้นกวดขันรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.สุทัศน์  กาญจนานนท์กุล  (แฟ้มภาพ)
ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่ 4 ของ 7 วันอันตราย พบเกิดอุบัติเหตุ 367 ครั้ง ตาย 37 รายเจ็บ 381 คน รวม 4 วัน มีอุบัติเหตุ รวม 2,104 ครั้ง ตายรวม 227 ราย และเจ็บรวม 2,163 คน ขณะที่ จ.เชียงใหม่ ครองตำแหน่งเกิดอุบัติเหตุสะสมเจ็บ - ตาย สูงสุด ส่วนจังหวัดที่อุบัติเหตุเป็น “ศูนย์” มี 7 แห่ง พร้อมเตรียมการรับมือ ประชาชนเดินทางกลับเข้า กทม. ประสานทุกจังหวัดปรับแผนรับมือกับการจราจร เน้นกวดขันรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท รวมถึงประชาสัมพันธ์เส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยงเมือง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และอำนวยความสะดวกในการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

วันนี้ (3 ม.ค.) พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “มอบความสุขทั่วไทย สัญจรปีใหม่ ปลอดภัยทุกคน” เกิดอุบัติเหตุ 367 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 37 ราย ผู้บาดเจ็บ 381 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 36.51 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 19.35 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.41 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 66.76 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 39.51 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.33 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 25.61 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.20

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,277 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,154 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 620,509 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 87,353 ราย โดยมีความผิดฐาน ไม่มีใบขับขี่ 26,638 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 25,004 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 22 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 22 คน สรุปผู้บาดเจ็บรวม 2,163 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 7 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม พัทลุง สิงห์บุรี ยโสธร แม่ฮ่องสอน และนราธิวาส จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 93 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 12 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 91 คน

พล.อ.สุทัศน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ จากภูมิลำเนาและแหล่งท่องเที่ยว ขอให้จังหวัดปรับแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน มุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางด้วยความสวัสดิภาพ โดยเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการให้สอดคล้องกับช่วงเวลาและสภาพการจราจรในแต่ละพื้นที่ เน้นถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางตรงระยะทางไกลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันผู้ขับขี่หลับในเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงกำชับจุดตรวจให้บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นอำนวยการจราจร และเพิ่มการกวดขันรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง รถตู้โดยสาร รถกระบะบรรทุกผู้โดยสาร คุมเข้มตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่และระดับแอลกอฮอล์ต้องเป็น “ศูนย์” ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถนำรถไปตรวจสอบสภาพจากศูนย์บริการของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งเปิดให้บริการบริเวณเส้นทางสายต่างๆ ทั่วประเทศ

ด้าน นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 4 วันที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุของอุบัติเหตุยังคงเกิดจากปัจจัยเสี่ยงเดิม จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดคุมเข้มการจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการในเส้นทางที่เป็นทางเชื่อมสู่ถนนสายหลัก เข้มงวดการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และความพร้อมของผู้ขับขี่เป็นพิเศษพร้อมปรับแผนเน้นการเฝ้าระวังเส้นทางขาเข้า จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเส้นทางหลักมุ่งสู่กรุงเทพฯ ให้เตรียมแผนรองรับการเดินทางกลับของประชาชน โดยเปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายรถ และปรับใช้สัญญาณไฟให้สอดคล้องกับสภาพการจราจร พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางลัด เส้นทางเลี่ยงเมือง เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด และอำนวยความสะดวก ในการจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

ขณะที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในช่วงท้ายของวันหยุดเทศกาลปีใหม่ การจราจรบนเส้นทางสายหลักจะมีปริมาณรถหนาแน่น ผู้ขับขี่บางรายมักใช้ไหล่ทางเป็นช่องทางจราจร เพื่อให้ถึงที่หมายโดยเร็ว ประกอบกับมักมีร้านค้า ริมข้างทาง และบางเส้นทางอาจมีรถจอดเสีย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ จึงขอให้จังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการจราจร โดยเฉพาะเส้นทางที่เป็นคอขวด คอสะพาน ทางแคบที่บีบช่องจราจร โดยจัดเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจร ตั้งกรวย วางแบริเออร์ เพื่อจัดช่องทางจราจรให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เส้นทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ท้ายนี้ ขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้วางแผนการเดินทาง เตรียมร่างกายให้พร้อม ศึกษาเส้นทางและตรวจสอบรถให้พร้อมใช้งาน จอดพักรถเป็นระยะในบริเวณที่ปลอดภัย อาทิ จุดบริการ จุดพักรถสถานีบริการน้ำมัน เพื่อป้องกันการหลับในเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญ ขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ ด่านตรวจต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัย
 
 
ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น