กาญจนบุรี - ตม.กาญจนบุรี ชี้แจงการทำงานที่ด่านพุน้ำร้อน เป็นไปตามระเบียบทุกประการ เงินที่รับเป็นค่าธรรมเนียมรักษาสิทธิเข้า-ออกตามระยะเวลาที่ได้วีซ่า พร้อมยืนยันไม่มีส่วย
จากการที่นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พล.ต.ณัฐ อินทรเจิญ ผบ.พล.ร.9 ในฐานะ ผบ.กกล.สุรสีห์ สั่งการให้นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี และ พ.ท.สถาพร เตี๊ยะเพชรดี ผบ.ร้อย รส.ร.9 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ประสานงานหน่วยงานต่างๆ เพื่อทำการจัดระเบียบสังคมในพื้นที่ส่วนหลังบริเวณชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จนมีการจับกุมรถตู้โดยสารกว่า 40 คัน ที่วิ่งนอกเส้นทางที่นำแรงงานชาวลาวมาแสตมป์วีซ่าที่ด่านพุน้ำร้อน รวมถึงมีการประสานตั้งจุดตรวจร่วมโดยหน่วยงานต่างๆ และในการตั้งจุดตรวจเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าว ซึ่งได้แฉว่า มีการจ่ายส่วยให้แก่หน่วยงานต่างๆ ในการเดินทางในเส้นทางชายแดนบ้านพุน้ำร้อน เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรีตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (12 ธ.ค.) พ.ต.ท.จิรชาติ ร่มสายหยุด รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ตรีแดงน้อย สว.ตม.กาญจนบุรี ได้นำสื่อมวลชนเข้าดูสภาพการปฏิบัติหน้าที่ของ ตม.บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดย พ.ต.ท.จิรชาติ ร่มสายหยุด รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานของ ตม.กาญจนบุรี เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติของด่านถาวรทั่วไป แต่ที่ด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนนี้ถือเป็นด่านผ่านแดนที่ใกล้กับ กทม.มากที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนของการที่มีการจัดระเบียบโดยตั้งด่านตรวจชาวลาวที่เดินทางแสตมป์การเข้าออกที่ด่านพุน้ำร้อน การให้บริการของการผ่านเข้าออกตามกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปตามปกติ เพราะทุกคนต้องเข้าสู่ระบบออนไลน์ให้บริการเหมือนสนามบินสุวรรณภูมิ หรือด่านอื่นๆ ทั่วประเทศ
แต่ที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน ไม่เหมือนด่านอื่น เพราะด่านนี้ยังไม่มีความสมบูรณ์ในการตั้งด่านเหมือนด่านปกติทั่วไป เป็นการให้บริการเปิดด่านแบบชั่วคราว คือ ตัวด่านตรวจอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 4.7 กม.
ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการของด่านทั้ง 2 ประเทศ จึงมาตกลงร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีคนเก่า กับมุขมนตรีเมืองทวาย ว่า ให้รถของแต่ละประเทศสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการ จึงอนุโลมให้รถยนต์สามารถเดินทางไปถึงด่านทิคี่ ประเทศพม่า และเนื่องจากช่วงระยะทางระหว่างด่านไปถึงชายแดนมีชาวบ้านอยู่อาศัยบางส่วนจึงต้องใช้การสัญจรไปมา
พ.ต.ท.จิรชาติ กล่าวต่อว่า เกี่ยวกับเรื่องการเรียกเก็บเงินค่าผ่านแดนนั้น ทาง ตม.กาญจนบุรี ได้มีการให้บริการจ่ายค่าธรรมเนียมการสงวนสิทธิเพื่อเดินทางเข้าออกประเทศไทย หรือการรักษาสิทธิการเข้าออกตามระยะเวลาที่วีซ่ากำหนดไว้ หากไม่มีการสงวนสิทธิต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1,000 บาท แต่หากมีการสงวนสิทธิจ่ายค่าธรรมเนียมเข้ารัฐจำนวน 3,800 บาท โดย ตม.กาญจนบุรีเป็นผู้จัดเก็บ และออกใบเสร็จรับเงินนำส่งตามระเบียบของทางราชการกำหนดต่อไป
ส่วนเรื่องการเรียกเก็บค่าถ่ายเอกสารใบละ 50 บาทนั้น ทาง ตม.ไม่มีการเรียกเก็บแต่เอกชนมีการให้บริการถ่ายเอกสารใบละ 5 บาทเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากประชาสัมพันธ์ชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ของ ตม.กาญจนบุรี ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อนว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบทุกประการ