กาญจนบุรี - นอภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังทหาร ตำรวจ ขนส่ง และ ตม.ตั้งด่านจับรถตู้เถื่อนวิ่งนอกเส้นทาง ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวมาทำการปั๊มพาสปอร์ตที่ด่าน ตม.ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน เผยจากการตรวจสอบพบมีสติกเกอร์สัญลักษณ์ “สมอเรือ” ติดเอาไว้ทั้งที่กระจกหน้า และหลังเกือบทุกคัน
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พ.ท.สถาพร เตี๊ยะเพชรดี ผบ.ควบคุม ร.9 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.ต.อุทัย อินทรักษ์ สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ร.ต.อ.อำพร มุสักพันธ์ รอง สว.ตม.กาญจนบุรี ร.อ.ต่อพงษ์ ศิริลัย ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1405 ร.ท.รตินนท์ เสนาณรงค์ ผบ.รอย รส.ร.9 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ นายนพดล กาญจนกุล เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี นายสุวิทย์ มากแก้ว ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายประสาน สงวนพันธุ์ นายก อบต.บ้านเก่า นายอภิรัฐ สงบจิต ผู้ใหญ่บ้านบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร อส. อำเภอเมืองกาญจนบุรี กว่า 50 นาย ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณ 3 แยกอนามัยบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ห่างจากชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ประมาณ 4 กิโลเมตร
นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ามีขบวนการรถยนต์ตู้โดยสารจาก กทม. และปริมณฑล ขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวมาปั๊มพาสปอร์ตต่ออายุการทำงานที่ด่าน ตม.บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นจำนวนมาก ซึ่งรถยนต์ตู้ทั้งหมดวิ่งนอกเส้นทางตามที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น วันนี้จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตั้งด่านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีข่าวออกไป ซึ่งปรากฏว่า เป็นเรื่องจริง จึงให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นรถยนต์ที่เข้าออกทุกชนิด โดยเฉพาะรถยนต์ตู้โดยสารที่มาจาก กทม.และปริมณฑล เนื่องจากรถยนต์ตู้โดยสารเหล่านี้วิ่งนอกเส้นทางโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งยังนำแรงงานต่างด้าวชาวลาวมาทำการปั๊มพาสปอร์ตที่ด่าน ตม.ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ด้วยการบรรทุกผู้โดยสารเกิดกว่ากฎหมายกำหนด
“การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเชิญพนักงานขับรถทุกคนมาทำประวัติ โดยเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ใช้มาตรการเปรียบเทียบปรับหลายข้อหา เช่น ปรับข้อหาบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ขับรถโดยสารออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการดำเนินการตั้งจุดตรวจร่วมครั้งนี้ทอดยาวมาจนถึงเวลา 15.00 น. ผลปรากฏว่า สามารถเปรียบเทียบปรับรถยนต์ตู้ได้มากกว่า 30 คัน รวมผู้โดยสารแรงงานชาวลาวเกือบ 400 คน” นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี กล่าว และว่า
รถยนต์ตู้บางคันเป็นรถยนต์ตู้ส่วนตัวที่นำมารับจ้างโดยสารแรงงานชาวลาวมาปั๊มใบพาสปอร์ต ซึ่งพาสปอร์ตดังกล่าวสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ 30 วัน และทุกๆ 30 วัน แรงงานเหล่านี้จะมาปั๊มพาสปอร์ตเพื่ออยู่ในประเทศไทยต่อ โดยจะทำเช่นนี้เป็นประจำทุกๆ 30 วัน จะพบว่าวันธรรมดาจะมีชาวลาวมาปั๊มพาสปอร์ตวันละประมาณ 600 คน หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีมากถึง 2,000 คน
สำหรับรถยนต์ตู้ทั้งหมดจะมีสติกเกอร์สัญลักษณ์ “สมอเรือ” ติดเอาไว้ทั้งที่กระจกหน้าและกระจกหลัง ลักษณะคล้ายกับแสดงให้รู้ว่า หากแรงงานชาวลาวต้องการที่จะเดินทางมาปั๊มพาสปอร์ต จะต้องมารถยนต์ตู้ที่มีสัญลักษณ์นี้เท่านั้น และจากแหล่งข่าวแจ้งว่า แรงงานทุกคนจะต้องจ่ายค่าหัวให้แก่ผู้กว้างขวางรายหนึ่งหัวละ 800 บาท ซึ่งตนจะได้รายงานให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทราบต่อไป