ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านกลุ่มที่ 5 อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ลงมติไม่เอาทางพิเศษบูรพาวิถี-พัทยา ทุกแนวเส้นทาง หลังประชุมกลุ่มย่อยช่วงที่ 3 ที่ปรึกษานำเสนอเส้นทางและมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมให้เวลา 15 วัน หากไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจจะเดินทางไปพบผู้ว่าการทางเอง
วันนี้ (26 พ.ย.) นายกนก เข็มนาค ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม บริษัทที่ปรึกษา นายวีระ ศานติวรกุล วิศวกรงานทาง บริษัทที่ปรึกษาโครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา ร่วมชี้แจงการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยนายกนก กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูนำเข้าและส่งออก สัดส่วนถึงร้อยละ 54 ของปริมาณการนำเข้าและส่งออกทั้งประเทศ รวมถึงการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีอัตราความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี เส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางขนส่งสินค้า ระหว่างกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ต้องประสบปัญหาการจราจรค่อนข้างหนาแน่น และมีรถบรรทุกขนส่งสินค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งยังมีแนวโน้มที่การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นสูงขึ้นในอนาคต
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการเดินทาง และขนส่งสินค้า จึงวางแผนการดำเนินงานระยะเร่งด่วน ต่อขยายโครงข่ายทางพิเศษบูรพาวิถีไปยังนิคมอุตสาหกรรม พื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ชายหาดบางแสน และเมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
กระทรวงคมนาคม นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2555 ระหว่างการตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง ถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบขนส่ง เชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทุกรูปแบบ ได้แก่ การขนส่งทางราง การขนส่งทางถนน และทางพิเศษ ซึ่งทางพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา เป็นโครงการหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุตามกรอบนโยบายและแผนอย่างมีประสิทธิภาพ กทพ.จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด และบริษัท เอ็นริช คอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี-พัทยา พร้อมทั้งจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้รับทราบข้อมูลข่าวสาร และมีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อโครงการ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในด้านการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน คุ้มค่าต่อการลงทุน ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดปัญหา หรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชนท้องถิ่น หรือเกิดผลกระทบในระดับที่ยอมรับได้
โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ศึกษาและรับฟังความคิดจากประชาชนในหลายพื้นที่ ซึ่งแสดงความเห็นและลงมติคัดค้านแนวเส้นทางต่างๆ ที่ทางบริษัทนำเสนอ แต่ล่าสุด ได้มีความเห็นร่วมกันว่าให้แนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาได้นำกลับไปพิจารณา และนำไปหารือกับทางกรมทางหลวง ได้รับคำตอบว่า ไม่อนุญาตให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ จึงต้องนำกลับมาหารือกับประชาชนอีกครั้ง โดยจะใช้แนวเส้นทางที่ 8 ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงประชาชนน้อยที่สุด
ข่าวแจ้งว่า บรรยากาศการประชุมกลุ่มย่อยค่อนข้างตึงเครียด มีประชาชนมาร่วมรับฟังกว่า 600 คน ทุกคนต่างไม่เห็นด้วยต่อโครงการทุกแนวเส้นทาง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อเป็นมติของที่ประชุมว่า ชาวอำเภอศรีราชาไม่ต้องการ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบเรื่องของสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้าง ทั้งฝุ่นละออง เสียง การจราจร นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเศรษฐกิจ เนื่องจากริมถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี มีเงินหนุนเวียนจากการประกอบธุรกิจมหาศาล ราคาที่ดินไร่ละกว่า 10 ล้านบาท หากมีการก่อสร้างจะทำให้เศรษฐกิจบริเวณดังกล่าวซบเซาโดยสิ้นเชิง แล้วประชาชนจะไปประกอบอาชีพอะไร รวมทั้งวิถีชีวิตบริเวณดังกล่าวต้องเสียไป จึงจะร่วมกันคัดค้านให้ถึงที่สุด
โดยจะให้เวลา 15 วันหลังจากวันนี้ บริษัทที่ปรึกษาต้องนำกลับไปเสนอต่อ กทพ. หากไม่มีคำตอบเป็นที่น่าพอใจ ประชาชนชาวชลบุรีที่ได้รับผลกระทบจากโครงการจะเดินทางไปพบผู้ว่าการ กทพ.เอง