xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.รพ.ตราดนำทีมแพทย์แถลงโต้ญาติคนไข้โพสต์เฟซบุ๊กขอความเป็นธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตราด - ผอ.โรงพยาบาลตราด นำทีมแพทย์แถลงโต้ เหตุญาติคนไข้ฝากครรภ์โพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกในครรภ์เสียชีวิต แจงสาเหตุเกิดจากภาวะสายสะดือเข้าสู่เยื่อหุ้มรก

จากกรณีที่มีการโพสต์เฟซบุ๊ก “นี่คับ คือ หน้าหลานสาว ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย การกระทำของ คนที่เราเรียกว่า หมอและพยาบาล คุณทำได้เลือดเย็นมาก จรรยาบรรณคุณอยุ่ไหนคับ แม้แต่คำว่า ขอโทด.. ก็คงไม่มีวันให้อภัย ถ้าคุณพุดว่า เสียใจด้วย#คนที่เสียใจคือ หัวอกของพ่อ แม่ และญาติของเด็ก คับไม่ใช่คุณ คุณจะรับผิดชอบ ชีวิต คนยังไง พุด” ของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Prince’z Ize เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับ น.ส.กรวรรณ ธรรมเกสร อายุ 15 ปี ซึ่งคลอดบุตรที่โรงพยาบาลตราด และบุตรได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 4-5กันยายน 2557 จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานของแพทย์ และพยาบาลโรงพยาบาลตราดในโลกโซเชียลอย่างรุนแรง

ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อสอบถามไปยังพี่สาวของ น.ส.กรวรรณ ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว กระทั่งทราบข้อมูลว่า น.ส.กรวรรณ หรือเอิง มีอาการน้ำคร่ำเดิน และได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตราด แพทย์รับตัวเข้าดูอาการเพื่อรอคลอดที่ตึกคลอดของโรงพยาบาล โดยให้ญาติกลับไปรอที่บ้าน

และในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ ปรากฏว่า น.ส.กรวรรณ ได้ถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำคลอด ส่วนลูกในท้องถูกนำตัวออกมาให้ออกซิเจน และเสียชีวิต โดยญาติได้นำศพไปฝังตามหลักศาสนา

พี่สาวของ น.ส.กรวรรณ ยังได้แชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ และส่งต่อให้แก่คนรู้จัก พร้อมแจ้งต่อสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม และเรียกร้องให้โรงพยาบาลตราด รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายแพทย์พิเชียน วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด พร้อมนายแพทย์สมพงษ์ กิตติพิบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินรีเวช แพทย์หญิงอนรรฆวรรณ อิงประสาร สูตินรีแพทย์ และหัวหน้าพยาบาล รวมทั้งคณะพยาบาล ได้ร่วมกันออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน พร้อมนำประวัติการรักษาของ น.ส.กรวรรณ และสมุดประจำตัวแม่และเด็ก ซึ่งมาฝากครรภ์ออกให้สื่อมวลชนดู

แพทย์หญิงอนรรฆวรรณ กล่าวว่า น.ส.กรวรรณ เข้าฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตราดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ซึ่งขณะนั้นมีอายุครรภ์ได้ 5 เดือน แพทย์ได้ดูแล และตรวจครรภ์มาตลอด 5 ครั้ง ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทีมแพทย์ได้กำหนดวันคลอดคือ วันที่ 26 กันยายน 2557

“กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 3 กันยายน ตึกคลอดโรงพยาบาลตราด ได้รับตัว น.ส.กรวรรณเข้าพักเพื่อรอคลอด และในช่วง 2-3 ทุ่ม พยาบาลได้ตรวจปากมดลูกซึ่งก็พบว่าเปิด 2 เซนติเมตร และพบว่าเด็กกลับหัวพร้อมคลอด โดยพยาบาลได้ตรวจคลื่นหัวใจ พบว่า มีการเต้นปกติทั้งแม่และลูกแ แต่พบสิ่งผิดปกติ คือ มีเลือดออกมาพร้อมน้ำเดิน แพทย์จึงทำการผ่าตัดฉุกเฉิน และเมื่อนำเด็กออกมาก็พบว่า เป็นเพศหญิงแต่เด็กหัวใจหยุดเต้น ทีมแพทย์ และพยาบาลได้ช่วยกันปั๊มหัวใจจนเริ่มกลับมาเต้น จึงย้ายเด็กไปอยู่ห้องไอซียู แต่สุดท้ายเด็กก็เสีย”

สาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตเนื่องจากเกิดภาวะสายสะดือเข้าสู่เยื่อหุ้มรก แทนที่จะเข้าสู่เนื้อรกตามปกติ (Velamentous insertion) ซึ่งเมื่อถุงน้ำคร่ำแตกจะทำให้มีการฉีกขาดของเส้นเลือด ซึ่งในกรณีของเด็กหญิงรายนี้มีน้ำหนัก 2,500 กรัม หากเสียเลือดเพียง 40 CC ทารกก็จะอยู่ในภาวะช็อกทันที และตลอดเวลาที่รับฝากครรภ์ไม่พบอาการหรือภาวะดังกล่าว เนื่องจากทั้งแม่และลูกมีสุขภาพแข็งแรง

ส่วนปัญหาที่ญาติเคลือบแคลงสงสัยว่าเหตุใดไม่ผ่าตัดเพื่อนำตัวเด็กออกมาก่อนนั้นนั้น การที่ผู้คลอดเจ็บครรภ์ และมีน้ำเดินถือเป็นภาวะปกติในการเข้าสู่การคลอด ร่วมทั้งการตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงไม่มีข้อบงชี้ในการผ่าตัดคลอด

นายแพทย์สมพงษ์ กิตติพิบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานสูตินรีเวช กล่าวว่า เด็กมีอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ และยังไม่ครบกำหนดคลอด ซึ่งการผ่าตัดนำเด็กออกมาหากยังไม่ครบกำหนด ถือว่าเป็นความผิดของแพทย์ หรือพยาบาล ดังนั้น การดูแลคนไข้ทำได้ขณะนอนรอคลอดคือ การตรวจวัดคลื่นหัวใจ และสังเกตอาการเพื่อรอให้มดลูกเปิด 10 เซนติเมตรเท่านั้น

ขณะที่ นายแพทย์พิเชียน วุฒิสถิรภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวว่า โรงพยาบาลจะดูแลคนไข้รายนี้เป็นกรณีพิเศษ

หลังชี้แจงต่อสื่อมวลชนแล้ว ทีมแพทย์ได้เดินทางไปพบ น.ส.กรวรรณ ซึ่งนอนพักฟื้นอยู่ภายในห้องพิเศษ ที่มีสามี และแม่สามีเฝ้าอยู่ ส่วนย่าของเด็กบอกว่าไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากแพทย์ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นจนเข้าใจ





กำลังโหลดความคิดเห็น