xs
xsm
sm
md
lg

เวชศาสตร์ฟื้นฟู-ลดพิการ-คืนความสุขให้ผู้ป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นั้นได้กำหนดแผนงานเพื่อดูแลผู้ป่วยกลุ่มเวชศาสตร์ฟื้นฟู ให้ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์โดยเฉพาะสุขภาพของผู้ป่วยซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มที่เคยผ่านวิกฤตจากการเจ็บป่วยเฉียบพลัน เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นเลือดในสมองแตก ฯลฯ ซึ่งการเจ็บป่วยเฉียบพลันนั้นเกิดได้กับผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มและอาจรุนถึงขั้นเกิดภาวะคล้ายอัมพาต หรืออัมพาตหลังจากรักษาแล้ว และหากไม่ได้รับการฟื้นฟูทันทีภายหลังจากที่แพทย์รักษาอาการภาวะทางสมองเสร็จโอกาสที่ผู้ป่วยเสี่ยงจะพิการถาวรเป็นไปได้สูง ซึ่งไม่ว่าจะด้วยอาการลักษณะใดล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย ดังนั้นการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์จึงจำเป็นอย่างยิ่ง”ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ รอง ผอ.สปสช.เขต 12 สงขลา ในฐานะรักษาการ ผอ.สปสช.เขต 12 สงขลา สะท้อนถึงความสำคัญของการพื้นฟูผู้ป่วย

เดินหน้างานเวชศาสตร์ฟื้นฟูคืนชีวิตที่ดีแก่ผู้ป่วย ทพ.วิรัตน์กล่าวว่า ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยในระบบหลักประกันฯ จะป่วยและประสบเหตุป่วยเฉียบพลันในจำนวนสูงขึ้น สปสช.เขต 12 สงขลาจึงให้ความสำคัญกับปัญหานี้จึงได้หารือกับโรงพยาบาลในพื้นที่ทั้งโรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อพัฒนารูปแบบฟื้นฟูสมรรนะทางการแพทย์ของผู้ป่วยที่เมื่อออกจากโรงพยาบาลไปแล้วก็ยังมีนักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัดในพื้นที่และชุมชนที่ผู้ป่วยอาศัยคอยดูแล จึงเกิดเป็น “โครงการพัฒนาจัดบริการฟื้นฟูสมรรถนะทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยระบบกึ่งเฉียบพลันและไม่เฉียบพลันในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยในพื้นที่จังหวังสงขลาโดยเฉพาะ มีโรงพยาบาล 3 แห่งเป็นแม่ข่ายเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลต่างๆ และชุมชน จึงได้เริ่มนำร่องระบบโดยจับคู่ให้โรงพยาบาลหาดใหญ่พัฒนาโรงพยาบาลบางกล่ำให้มีความชำนาญเฉพาะด้านการฟื้นฟูสมรรถนะทางการแพทย์ สามารถดูแลผู้ป่วยได้ทันทีที่มีการส่งตัวออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่

“โรงพยาบาลบางกล่ำแม้จะเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก แต่สิ่งแวดล้อมดีเหมาะกับการฟื้นฟูทั้งสุขภาพและจิตใจของผู้ป่วย เพราะมีพยาบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลหาดใหญ่ก็ไม่ได้ปล่อยหรือละทิ้งคนไข้ยังส่งทีมแพทย์เจ้าหน้าที่ลงไปติดตามดูแลและช่วยในการพัฒนาให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งการทำงาน 1 ปีมานี้พบว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดี ตัวคนไข้หรือญาติคนไข้ก็พอใจคลายกังวลหลายรายได้รับการฟื้นฟูกลับไปมีชีวิตปกติ ลดภาวะเสี่ยงเพิ่มจำนวนผู้พิการให้ประเทศ ทั้งเรียกได้ว่าเป็นระบบการรักษาแบบเอื้ออาทรที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยเฉพาะคนไข้และครอบครัวได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นความตั้งใจของ สปสช.เขต 12 และกลุ่มสาธารณสุขของจังหวัดสงขลาที่จะให้บริการประชาขนอย่างเต็มที่” ทพ.วิรัตน์กล่าว

จากโรงพยาบาลที่ประสบปัญหาผู้เข้ารับบริการน้อยจนเป็นหนี้เพราะรายได้ติดลบ พลิกผันสู่โรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู นพ.สุริยะ สุพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางกล่ำ อธิบายว่า ระยะทาง 24 กิโลเมตร คือระยะทางระหว่างโรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลบางกล่ำ ทำให้คนไข้ส่วนใหญ่ทั้งที่อยู่ในพื้นที่บางกล่ำและใกล้เคียงเลือกใช้บริการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่เพราะเดินทางสะดวก จนช่วงหนึ่งโรงพยาบาลประสบปัญหาหนี้สิน รายได้ติดลบ บางวันแถบไม่มีผู้ป่วยในนอนเลย ทั้งที่เรายังต้องจัดอัตรากำลังพยาบาล แพทย์มาทำงานเช่นเดิมก็ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลหาดใหญ่ ในการเป็นเครือข่ายรับส่งต่อคนไข้ในกลุ่มเวชศาสตร์ฟื้นฟูของโรงพยาบาลหาดใหญ่ เช่น ป่วยโรคเส้นเลือดสมองตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต และต้องทำกายภาพบำบัดทุกวันให้มานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางกล่ำ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับทุกวันเพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ซึ่งแต่ละวันมีผู้ป่วยจำนวนมาก โดยโรงพยาบาลหาดใหญ่ได้ส่งแพทย์มาช่วยวางระบบและติดตามดูแลผู้ป่วยเป็นระยะ

ทั้งนี้ ในพื้นที่บางกล่ำนั้นมีผู้ป่วยทั้งที่เป็นผู้สูงอายุ และผู้พิการที่อยู่ในกลุ่มต้องรับการฟื้นฟูอยู่ประมาณ 5% และไม่ใช่แค่เพียงคนไข้จากโรงพยาบาลหาดใหญ่เท่านั้น คนไข้จากพื้นที่ใกล้เคียงที่ต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถนะทางการแพทย์ก็หันมารับบริการนอนพักที่โรงพยาบาลมากขึ้น เพราะเรามีทีมพยาบาล นักกายภาพบำบัดดูแลตลอดทุกวันไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ ในการดูแลจะมีกิจกรรมบำบัดที่ช่วยให้คนไข้ได้รับการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันเพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมาได้ผลน่าพอใจกับทุกฝ่ายและยังทำให้อัตราการครองเตียงของโรงพยาบาลบางกล่ำเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากเดิมไม่ถึง 50%

โรงพยาบาลบางกล่ำได้รับการพัฒนาจนเป็นศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู อีกทั้งยังมีศักยภาพมีความสามารถในการวินิจฉัยโรคซับซ้อนในผู้ป่วยได้ เช่น ผู้ป่วยมีภาวะเส้นเลือดตีบหรือแตกในสมอง ได้รับอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท เป็นต้น ซึ่งปกติโรงพยาบาลชุมชนจะทำไม่ได้ ขณะเดียวกันในด้านงบประมาณก็ได้รับการสนับสนุนจาก สปสช.ในการดำเนินการ และที่ผ่านมายังได้รับเงินเพิ่มพิเศษกรณีผู้ป่วยที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางกล่ำคืนละ 1,000 บาทต่อคืน ซึ่งเป็นโครงการพิเศษที่ทำเฉพาะใน สปสช.เขต 12 เพื่อศึกษาและวิจัยการทำงานด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและขณะนี้ได้สิ้นสุดโครงการไปแล้ว” ผอ.โรงพยาบาลบางกล่ำกล่าว

จากความร่วมมือของ สปสช.เขต 12 สงขลา และสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เป็นตัวอย่างที่สะท้อนชัดเจนว่าระบบการฟื้นฟูสมรรถนะทางการแพทย์ หรือ เวชศาสตร์ฟื้นฟู นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องการดูแลต่อเนื่องได้บรรเทาอาการเจ็บป่วย หลุดพ้นจากภาวะเสี่ยงไปสู่ความพิการถาวร คืนความสุขให้ทุกคนในชุมชน ทั้งยังเกิดประสานและร่วมมือทำงานด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ
 
 

ติดตาม Instagram และ Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น