xs
xsm
sm
md
lg

เถ้าแก่ย่านเศรษฐกิจพิษณุโลกเดือด! จ่อถูกถอนโฉนดให้ถือ นสล.แทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - พ่อค้าแม่ค้าย่านเศรษฐกิจเมืองสองแคว แห่ขอสภาทนายฯ ช่วย หลังจ่อถูกเพิกถอนโฉนดที่ดินแนวกำแพง คูเมืองเก่า กว่า 400 ราย เปลี่ยนเป็นหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) แทน ล่าสุด แม้เรื่องถูกดองในระดับจังหวัดฯ หลายผู้ว่าฯ ไม่กล้าเซ็น แต่ทำให้ไม่มั่นใจอนาคต

วันนี้ (24 ส.ค.) สภาทนายความจังหวัดพิษณุโลก และคณะผู้วิจัยการศึกษาความเป็นไปได้ในการประกาศแนวเขตกำแพงเมืองเก่า-คูเมืองพิษณุโลก ได้เปิดประชุมร่วมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่หอประชุมสมาคมจีน อ.เมืองพิษณุโลก โดย ผศ.ดร.พนิดา จงสุขสมสกุล และ ดร.ภคพร วัฒนดำรง ร่วมดำเนินการ และมีประชาชนที่อาศัยในย่านเศรษฐกิจตัวเมืองพิษณุโลก ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่อยู่ในแนวเขตที่ดินกำแพงเมืองเก่า-คูเมืองเข้าร่วมหลายร้อยคน

นายสาโรจน์ จันทรคีรี ประธานสภาทนายความจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า สภาทนายความฯ ได้รับการร้องขอให้มาช่วยเหลือในด้านกฎหมาย หลังจากภาครัฐมีการประกาศเขตกำแพงเมือง-คูเมืองพิษณุโลก เบื้องต้นต้องเข้าใจว่า เราไม่ได้มาคัดค้านกฎหมาย แต่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบว่าจะมีทางออกอย่างไร หากภาครัฐดำเนินการประกาศให้ที่ดิน บ้านเรือนที่มีเอกสารสิทธิโฉนดอยู่ก่อนหน้านี้ เป็น นสล. หรือหนังสือสำคัญที่หลวงในแนวเขตดังกล่าว

นายสาโรจน์ เปิดเผยต่อว่า กำแพงเมือง และคูเมืองพิษณุโลก มีมานานตั้งแต่สมัยอยุธยา ต่อเนื่องถึงรัตนโกสินทร์ที่ได้รื้อแนวกำแพงออก เพื่อป้องกันการซ่องสุม จากนั้นจังหวัดฯ ได้มีการพัฒนาเรื่อยมา ทำให้แนวกำแพงบางส่วนได้มีการพัฒนาเป็นย่านการค้า และที่อยู่อาศัย อีกทั้งมีการออกโฉนดที่ดินบนแนวกำแพงเมือง คูเมือง แต่ยังคงมีสภาพแนวกำแพงอยู่บางส่วน เช่น กำแพงเมืองที่วัดโพธิญาณ คูเมือง และกำแพงเมืองที่ศาลปู่ดำ

แต่เมื่อภาครัฐเริ่มดำเนินการประกาศเขตแนวกำแพงเมืองเก่า แนวกำแพงเมืองเหล่านี้ก็ต้องเป็นสมบัติของแผ่นดิน เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังระงับไว้ก่อน ยังไม่ได้ประกาศบังคับ เนื่องจากมีการรวมกลุ่มประท้วงของผู้ได้รับผลกระทบอยู่

“ตอนนี้เราจำเป็นต้องรวมรวมผู้ได้รับผลกระทบ ศึกษาปัญหาในทุกๆ ด้าน เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ภาครัฐได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ”

เบื้องต้น ให้ผู้ประกอบการร้านค้า บ้านเรือน ผู้ถือครองโฉนดที่ดิน ที่คาดว่าอยู่ในแนวเขตกำแพงเมือง-คูเมืองพิษณุโลก ได้ลงชื่อ พร้อมแนบสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดินรวบรวมไว้ แจ้งผลกระทบที่ได้รับ เพื่อรวบรวมข้อมูลผลกระทบของผู้อยู่อาศัยในแนวกำแพงเมือง คูเมืองพิษณุโลก เพื่อนำไปสู่การตกลงที่ดียุติธรรมต่อภาครัฐ ประชาชน

ด้านนายจรูญ วิเชียรไพศาล นายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน จ.พิษณุโลก และเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแนวกำแพงเมือง มีร้านค้าอยู่บนถนนมหาธรรมราชา ซึ่งอยู่ในแนวเขตกำแพงเมืองเก่า เปิดเผยว่า การประกาศแนวเขตกำแพงเมือง-คูเมืองพิษณุโลก ทำให้ชาวพิษณุโลกได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะย่านตลาดร้านค้า เพราะการพัฒนาในอดีตที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายเป็นอาคารพาณิชย์ และบ้านเรือนไปหมดแล้ว รวมถึงมีการออกเอกสารสิทธิที่ดินด้วย

เมื่อทางราชการจะประกาศให้กลับไปเป็นแนวกำแพงเมือง ทำให้ผู้ที่ถือครองที่ดินเหล่านี้อยู่พากันวิตกกังวล กระทบต่อสภาพจิตใจ เพราะไม่มั่นใจในอนาคต การประชุมวันนี้น่าจะรวมตัวกันเพื่อสรุปปัญหา และเสนอทางออกให้รัฐช่วยแก้ไข

สำหรับการประกาศเขตแนวกำแพงเมือง-คูเมืองพิษณุโลก เริ่มขึ้นช่วงปี 2551 โดยกรมธนารักษ์ ได้มีการสำรวจรังวัดเตรียมเพิกถอนโฉนด เนื่องจากมีการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้วเมื่อปี พ.ศ.2479 เพื่อเตรียมออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ในพื้นที่กำแพงเมืองเก่า-คูเมืองพิษณุโลก เพื่อต้องการอนุรักษ์แนวเมืองเก่า ห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ในแนวเมืองเก่า ยกเว้นการปรับปรุงไม่ให้เสื่อมไปตามกาลเวลา

ส่งผลให้ผู้ประกอบการ หรือผู้มีตึกอาคารพาณิชย์บริเวณดังกล่าว เช่น ถนนมหาธรรมราชา ถนนเอกาทศรถ ฯลฯ ทั้งหมด 433 โฉนด ได้รับผลกระทบ จากเดิมที่เคยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ก็ต้องกลายมาเป็นผู้เช่าเท่านั้น จึงได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านในห้วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกในสมัยนั้นๆ ไม่กล้าลงนามให้มีการประกาศฯ แต่เก็บเรื่องไว้อยู่

ล่าสุด มีข่าวว่าทางการเตรียมบังคับใช้กฎหมายแนวกำแพงเมืองเก่าพร้อมๆ กัน 5-6 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวพากันวิตกกังวลถึงอนาคตตัวเองอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น